More

    รวมมอเตอร์ไซค์ 15 รุ่นเด็ดที่มีลุ้นเปิดตัวใน Motor Expo 2025

    รวม 15 มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไทยที่ Motor Expo 2025 ครบทั้งสเปก จุดเด่น ราคา คาดการณ์ เหมาะสำหรับสายบิดห้ามพลาด!

    งาน Motor Expo 2025 ถือเป็นไฮไลต์ใหญ่ปลายปีสำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่หลายค่ายนิยมเลือกเปิดตัวรุ่นใหม่ นำเข้ามาโชว์ หรือประกาศราคาจำหน่ายจริงในประเทศไทย ปีนี้กระแสของรถแนว Adventure, Sport, Cruiser, Retro รวมถึงรถไฟฟ้า EV มาแรงแบบต่อเนื่อง ทำให้มีหลายรุ่น “น่าลุ้น” ว่าจะเข้ามาเปิดตัวในไทยในงานนี้

    และนี่คือ 15 รายชื่อมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่มีโอกาสลุ้นเข้าไทยในงาน Motor Expo 2025 ที่สายสองล้อต้องจับตามอง!

    1. Honda XL750 Transalp

    • ประเภท: Adventure / Touring
    • สเปกสำคัญ:
      • เครื่องยนต์: 755 ซีซี, 2 สูบเรียง, ระบายความร้อนด้วยน้ำ, 8 วาล์ว 
      • ระบบคลัตช์: Assist & Slipper 
      • เกียร์: 6 สปีด 
      • มิติรถ: 2,325 × 838 × 1,450 มม. (ยาว x กว้าง x สูง)
      • เบาะสูง: ประมาณ 850 มม.
      • ระยะฐานล้อ: 1,560 มม. 
      • น้ำหนักตัว: ประมาณ 208 กก. 
      • ระบบไฟ: LED ทั้งคัน 
      • โหมดขับขี่: มีหลายโหมด เช่น Travel, Sport, Standard, Rain, User 
      • ราคาไทย: เริ่มที่ 389,000 บาท สำหรับสีดำ และ 394,000 บาท สำหรับสีขาว 
    • จุดเด่น: เป็นแอดเวนเจอร์ขนาดกลาง ขี่ง่ายแต่ทรงพลัง เหมาะกับทั้งทางเรียบและทางฝุ่นเบา ๆ +น้ำหนักไม่มากเกินไป
    • โอกาสเข้าไทย: สูง  เพราะไทยฮอนด้าเคยนำเข้า +เปิดจองแล้ว

    1. Suzuki DR-Z4S

    • ประเภท: Dual-sport / Enduro
    • สเปกสำคัญ:
      • เครื่องยนต์: 398 ซีซี, สูบเดียว, ระบายความร้อนด้วยน้ำ, DOHC 4 วาล์ว
      • Bore × Stroke: 90.0 × 62.6 มม. 
      • อัตราส่วนกำลังอัด: 11.1:1 
      • ระบบเชื้อเพลิง: Injection, คันเร่งแบบ Ride-by-Wire
      • คลัตช์: แบบเปียก, หลายแผ่น, SCAS-equipped
      • เกียร์: 5 สปีด
      • ระบบกันสะเทือน:

        • หน้า: โช้ค KYB inverted พร้อมปรับ compression / rebound 
        • หลัง: ลิงค์โช้ค ปรับ pre-load และ damping ได้
      • ระยะเดินโช้ค: หน้า 280 มม., หลัง 296 มม
      • เบรก: ดิสก์หน้า 270 มม., ดิสก์หลัง 240 มม.
      • ยาง: หน้า 80/100-21, หลัง 120/80-18 (แบบหลอด)
      • ความจุถังน้ำมัน: 8.7 ลิตร
      • ระบบไฟ: ไฟหน้า, ไฟท้าย,ไฟเลี้ยว เป็น LED
    • จุดเด่น: เบา คล่องตัว เหมาะกับการลุยทางฝุ่นหรือขี่ทริปเล็ก +อัปเกรดเทคโนโลยีมากขึ้นจากรุ่นเก่า
    • โอกาสเข้าไทย: มีโอกาสดี โดยเฉพาะกับตลาดสายลุย / dual sport

    1. Kawasaki KLE 500

    • ประเภท: Adventure / Touring ขนาดกลาง
    • สเปกสำคัญ:
      • เครื่องยนต์: 498 ซีซี, 2 สูบขนาน (parallel twin), ระบายความร้อนด้วยน้ำ, DOHC, 8 วาล์ว
      • Bore × Stroke: 74 × 58 มม.
      • กำลังสูงสุด: ประมาณ 44.8 แรงม้า (33 kW) @ รอบ/นาที
      • แรงบิด: ประมาณ 41 นิวตัน-เมตร @ 6,500  รอบ/นาที
      • ระบบส่งกำลัง: 6 สปีด, โซ่ขับท้าย
      • โครงสร้าง: เฟรมเหล็ก double cradle
      • ระบบกันสะเทือน:
        • หน้า: เทเลสโคปิก 41 มม.
        • หลัง: สวิงอาร์ม + โช้คลิงค์ ปรับ preload ได้
      • เบรก: ดิสก์หน้า 300 มม., ดิสก์หลัง 230 มม
      • ยาง: หน้า 90/90-21, หลัง 130/80-17
      • ความจุถังน้ำมัน: 15 ลิตร
      • น้ำหนัก: ประมาณ 192 กก. เมื่อเติมน้ำมันแล้ว
    • จุดเด่น: มีประวัติในชื่อ KLE รุ่นเก่า แต่เวอร์ชันใหม่น่าจะกลับมาในแนว Adventure Touring  เบาะสูงใช้งานระยะไกลได้ สะเทือนรองรับการเดินทาง
    • โอกาสเข้าไทย: ถ้ามาไทยจริง จะเติมช่องว่างในกลุ่มแอดเวนเจอร์ขนาดกลาง ราคาน่าจะเข้าถึงกลุ่มทัวร์ริ่ง-แอดเวนเจอร์

    1. Ducati XDiavel V4

    • ประเภท: ครูยเซอร์ / Sport Cruiser
    • สเปกสำคัญ:

      • เครื่องยนต์: 1,158 ซีซี V4 Granturismo, 90° V-4, 4 วาล์ว/สูบ, เพลาข้อเหวี่ยงหมุนย้อน (counter-rotating) 
      • Bore × Stroke: 83 × 53.5 มม.
      • อัตราส่วนกำลังอัด: 14.0 : 1
      • กำลังสูงสุด: 168 แรงม้า (124 kW) @ 10,750 รอบ/นาที
      • แรงบิด: 126 นิวตัน-เมตร @ 7,500 รอบ/นาที
      • ระบบส่งกำลัง: เกียร์ 6 สปีด + Ducati Quick Shift ขึ้น-ลง
      • คลัตช์: Slipper + self-servo แบบเปียก
      • โครงสร้าง: เฟรมอัลลอยแบบ monocoque, ใช้เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง
      • ระบบกันสะเทือน:

        • หน้า: USD fork ขนาด 50 มม. แบบปรับได้เต็มรูปแบบ
        • หลัง: โช้คโมโนแบบแขนเดี่ยว ปรับ compression / rebound / preload ได้
      • เบรก:

        • หน้า: ดิสก์ คู่ 330 มม. เบรก Brembo Stylema พร้อม Cornering ABS
        • หลัง: ดิสก์ 265 มม. Brembo 2 ลูกสูบ
      • ยาง: หน้า 120/70 ZR17, หลัง 240/45 ZR17 (Pirelli Diablo Rosso III)
      • มิติ:

        • เบาะสูง: 770 มม.
        • น้ำหนัก (ไม่รวมเชื้อเพลิง): ประมาณ 229 กก.
        • ความจุถังน้ำมัน: 20 ลิตร
      • ระบบอิเล็กทรอนิกส์ &ฟีเจอร์:

        • Riding Modes, Power Modes, Traction Control, Wheelie Control, Cornering ABS
        • หน้าจอ TFT ขนาด 6.9 นิ้ว, เชื่อมต่อ Bluetooth, Ducati Multimedia System
        • Cruise control, Ducati Power Launch, Quick Shift 2.0
    • จุดเด่น: สมรรถนะสูง +ดีไซน์ครุยเซอร์สปอร์ต  ตำแหน่งเท้า “ขาไปข้างหน้า” (forward footpegs) ให้บุคลิกครุยเซอร์คลาสสิก แต่เครื่อง V4 ให้พลังแบบสปอร์ต
    • โอกาสเข้าไทย: รุ่นพรีเมียมมาก แต่หาก Ducati ไทยหรือผู้นำเข้าอิสระสนใจ อาจนำเข้ามาเป็นรุ่นโชว์หรือขายเฉพาะกลุ่ม

    1. Yamaha R7 

    • ประเภท: สปอร์ต / Supersport
    • สเปกสำคัญ (จากรุ่นก่อน +คาดเดาการอัปเดต):

      • เครื่องยนต์: 689 ซีซี, 2 สูบ, ระบายความร้อนด้วยน้ำ, DOHC 4 วาล์ว
      • กำลัง: ประมาณ 73 แรงม้า (54 kW) @ 8,750 รอบ/นาที
      • แรงบิด: ~68 นิวตัน-เมตร @ 6,500 รอบ/นาที
      • ระบบส่งกำลัง: 6 สปีด, คลัตช์แบบหลายแผ่น (wet)
      • โครงสร้าง: เฟรม Diamond ของ Yamaha
      • ระบบกันสะเทือน:

        • หน้า: โช้ค inverted ขนาด 41 มม., เดินโช้ค ~120 มม.
        • หลัง: ลิงค์โช้ค เดินโช้ค ~121 มม.
      • เบรก: ดิสก์คู่หน้าขนาด 298 มม., ดิสก์หลัง 245 มม.
      • มิติ:

        • เบาะสูง: ประมาณ 831 มม.
        • ความจุถังน้ำมัน: ~14.0 ลิตร
        • น้ำหนัก (wet): ประมาณ 189 กก.
    • จุดเด่น: R7 เป็นสปอร์ตพิกัด “กลาง-ล่าง” ที่ให้สมดุลระหว่างแรงและน้ำหนัก เหมาะกับสาย supersport ที่ไม่อยากเล่นบิ๊กไบค์แรงจัด
    • โอกาสเข้าไทย: ถ้า Yamaha ไทยมองตลาดสปอร์ตคลาสกลาง อาจนำ R7 รุ่นอัปเดตมาขายในไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มที่ขี่สนาม /ทริป

    1. Harley-Davidson X440

    • ประเภท: ครูยเซอร์ขนาดกะทัดรัด
    • สเปกสำคัญ:
      • เครื่องยนต์: สูบเดียว, 440 ซีซี, ระบายความร้อนแบบไฮบริด (อากาศ + น้ำมัน)
      • Bore × Stroke: 79.6 × 88.4 มม.
      • อัตราส่วนกำลังอัด: 9.5:1
      • กำลัง: ประมาณ 27 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
      • แรงบิด: ประมาณ 38 นิวตัน-เมตร @ 4,000 รอบ/นาที
      • ระบบส่งกำลัง: เกียร์ 6 สปีด
      • ระบบกันสะเทือน:
        • หน้า: โช้ค KYB แบบ Upside-down (ระยะเดินโช้คระบุในแคตตาล็อก)
        • หลัง: โช้คคู่ (twin shocks)
      • เบรก: ดิสก์หน้า 320 มม., ดิสก์หลัง 240 มม.
      • ล้อ /ยาง: หน้า 100/90-18, หลัง 140/70-17 
      • ความจุถังน้ำมัน: 13.5 ลิตร 
      • น้ำหนัก (kerb): 190.5 กก.
      • มุมแร็ก: 25.5° 
      • จอแสดงผล: จอ TFT ขนาด 3.5″ แสดงความเร็ว, สถานะแบต, สัญญาณโทรศัพท์ ฯลฯ 
      • ความปลอดภัย: ระบบ ABS แบบ Dual-Channel 
      • ฟีเจอร์เชื่อมต่อ: รองรับสมาร์ตโฟน (การแจ้งข้อความ, เพลง, การโทร) 
    • จุดเด่น: เป็น Harley ที่ราคา “เบากว่า”รุ่นใหญ่คลาสิก เหมาะกับผู้เริ่มต้นสายครูยเซอร์หรือผู้ที่อยากได้ Harley แบบใช้งานทั่วไป
    • โอกาสเข้าไทย: ถ้า Harley-ดีลเลอร์ไทย (หรือผู้นำเข้า)มองตลาด Entry-level Cruiser อาจนำโมเดลนี้เข้าสู่ไทยเพื่อขยายกลุ่ม

    1. Lambretta J200

    • ประเภท: สกู๊ตเตอร์เรโทร
    • สเปก (คาด / วิเคราะห์):

      • ปริมาตรเครื่อง: ประมาณ 200 ซีซี
      • ดีไซน์: ตัวถังสไตล์ย้อนยุคยุโรป, เหล็กตัวถัง, งานออกแบบคลาสสิก
        -จุดเด่น: สไตล์ Lambretta แท้, เหมาะกับสายแฟชั่นคลาสสิกและคนรักสกู๊ตเตอร์เรโทร
    • โอกาสเข้าไทย: มีโอกาสดี  สกู๊ตเตอร์เรโทรยังคงเป็นตลาดที่แข็งแรงในไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง

    Motor Expo 2025

    1. NIU NQiX 1000 (EV)

    • ประเภท: สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (EV)
    • สเปก (คาด/ประมาณ):

      • มอเตอร์ไฟฟ้า: กำลังและแรงบิดสูง เป็น EV สำหรับ uso จริงจัง (ไม่ใช่แค่ commuter เบา ๆ)
      • แบตเตอรี่: ความจุสูง (น่าจะเป็นแบต Li-ion ความจุใหญ่) เพื่อให้ระยะทางวิ่งได้ “จริงจัง”
      • ระบบเชื่อมต่อ: มีโอกาสมากที่จะมีแอปควบคุมแบต /โหมดขับขี่ /ข้อมูลการชาร์จ
        -การชาร์จ: รองรับการชาร์จที่บ้านและสถานีชาร์จ
    • จุดเด่น: EV ใช้งานได้จริง, เทคโนโลยีล้ำ, เหมาะกับคนเมืองที่สนใจรถไฟฟ้า
    • **โอกาสเข้าไทย:**สูง  ไทยให้ความสนใจกับ EV มากขึ้น และแบรนด์ EV ขยายตัวเร็ว

    1. Royal Alloy JPS 160

    • ประเภท: สกู๊ตเตอร์เรโทรคลาสสิก
    • สเปก (คาด /วิเคราะห์):

      • เครื่องยนต์: ประมาณ 160 ซีซี (ชื่อ JPS 160)
      • ดีไซน์: คลาสสิกสไตล์อังกฤษ, งานสี /ลาย JPS (สีเหลือง-ดำ) มีมูลค่าทางสายสะสม
      • จุดเด่น: ความสวยงาม, ความคลาสสิกลึก, เป็นตัวเลือก “เรโทร +ใช้งานจริง”
    • โอกาสเข้าไทย: มีลุ้นพอสมควร สกู๊ตเตอร์โมเดลพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula 1 โดยใช้การออกแบบโทนสีประจำทีม Lotus ในยุค 1970 ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองยุคทองของกีฬามอเตอร์สปอร์ตของอังกฤษ

    1. Triumph Trident 800

    • ประเภท: Naked / Standard สายสปอร์ต-ใช้งานจริง
    • สเปก (คาด):

      • เครื่องยนต์: 800 ซีซี 3 สูบ (เนื่องจาก “Trident 800” มักหมายถึง 3 สูบ)
        -ระบบส่งกำลัง: เกียร์ 6 สปีด
        -จุดเด่น: น้ำหนักดี, พละกำลังแบบ 3 สูบให้แรงบิดช่วงกลาง, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (เช่นโหมดขับขี่, traction control)
    • โอกาสเข้าไทย: ถ้ามีการนำเข้าอย่างเป็นทางการโดย Triumph ประเทศไทย รุ่นนี้น่าจะได้รับความนิยม เนื่องจากให้สมรรถนะกับการใช้งานหลากหลาย

    Motor Expo 2025

    1. Zontes 703F 

    • ประเภท: แอดเวนเจอร์ /ทัวร์ริ่ง
    • สเปก (คาด /วิเคราะห์):

      • เครื่องยนต์: 3 สูบ  จุดเด่นที่ให้แรงบิดสูง + ลักษณะเสียงเฉพาะตัว
        -ดีไซน์: แอดเวนเจอร์ทรงแข็งแรง, โครงสร้างทนทาน
        -จุดเด่น: เป็นแอดเวนเจอร์ในคลาสไม่ใหญ่มากแต่ “แรงเหลือ” +อุปกรณ์แอดเวนเจอร์ครบ (แร็ก,กันล้ม,โช้ค อาจปรับได้)
    • โอกาสเข้าไทย: ถ้า Zontes มีแผนนำเข้ารุ่นแอดเวนเจอร์ จะเป็นตัวเลือกที่แข็งแรงในตลาด นักบิดสายทัวร์ริ่งและสายลุยระดับกลาง-สูง

    1. Tromox M05 (EV)

    • ประเภท: สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (EV)
    • สเปก (คาด):

      • มอเตอร์ไฟฟ้า: ให้แรงบิดสูง เหมาะทั้งใช้งานในเมืองและการเดินทางสั้น
      • แบตเตอรี่: ใช้แบตประสิทธิภาพดี ระยะทางใช้งานจริงอาจมากกว่าสกู๊ตเตอร์ EV รุ่นเก่า
        -ดีไซน์: มินิมอล, นวัตกรรม, กะทัดรัด
    • จุดเด่น: รถ EV ดีไซน์ทันสมัย, น้ำหนักเบา, ใช้งานง่ายในเมือง
    • โอกาสเข้าไทย: EV สกู๊ตเตอร์ยังเป็นตลาดเติบโต — Tromox อาจเข้ามาเติมช่องตลาด EV ย่อย

    1. Royal Enfield Classic 650

    • ประเภท: เรโทร /คลาสสิกบิ๊กไบค์
    • สเปก :

      • เครื่องยนต์: 650 ซีซี, 2 สูบ (Royal Enfield ใช้แพลตฟอร์ม 650 สูบคู่ในรถหลายรุ่น)
        -แรงบิด / แรงม้า: ให้แรงบิดดีในรอบกลาง เหมาะกับการขี่เรโทร +ทัวร์
        -ดีไซน์: คลาสสิกมาก, เบาะเดี่ยวหรือเบาะซ้อน, ถังแบบย้อนยุค, งานเหล็ก /โครม
        -จุดเด่น: ฟีลเรโทร + ความคลาสสิกของ Royal Enfield +ความทนทาน
    • **โอกาสเข้าไทย:**  เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว ใครที่สนใจไปชมคันจริงได้ที่ บูธ Royal Enfield

    Motor Expo 2025

    1. Deco Bello

    • ประเภท: สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (EV)
    • สเปก (คาด / วิเคราะห์):

      • มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2000W ให้แรงบิดสูง เหมาะทั้งใช้งานในเมืองและการเดินทางสั้น
        -ดีไซน์: คลาสสิกเรียบหรู, ตัวถังเหล็ก, ลวดลายย้อนยุค
        -จุดเด่น: เหมาะกับการขี่ในเมือง, ความประหยัด, สไตล์คลาสสิกลึก
    • โอกาสเข้าไทย: มีแนวโน้มดี โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่รักดีไซน์ย้อนยุค +สเกูตเตอร์

    Motor Expo 2025

    1. BMW R 1300 RT (รุ่นท็อป Touring) 

    • ประเภท: Touring / ทัวร์ริ่งพรีเมียม
    • สเปก:
      • เครื่องยนต์: ขนาดใหญ่ (1300 ซีซี)
        – พละกำลัง145 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที
        – ระบบกันสะเทือน: ช่วงล่างปรับได้, ระบบเบรก, ABS, ระบบช่วยเหลือผู้ขี่ (อิเล็กทรอนิกส์)
      • ฟีเจอร์
        – ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Cruise Control (DCC) พร้อมฟังก์ชันช่วยเบรก
        – ระบบ Active Cruise Control (ACC) ที่สามารถกำหนดระยะห่างจากรถคันหน้าได้
        – ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning (FCW)
        – ระบบช่วยการมองด้านข้าง Side View Assist (SVA) ที่ใช้เรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถ
        -จุดเด่น: ความสะดวกสบายในการเดินทางไกล, ความพรีเมียม, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบ
    • โอกาสเข้าไทย: เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว ใครที่สนใจไปชมคันจริงได้ที่ บูธ BMW Motorrad

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts