เมืองไทยพึ่งจะเปิดตัว Mitsubishi Xpander Cross MY2022 ได้ไม่นานโดยปรับเปลี่ยนในส่วนภายใน ระบบส่งกำลังและช่วงล่างเรียกว่าเปลี่ยนเกือบหมด
แต่งานนี้อาจมีหยุดชะงักเมื่อเว็บรถยนต์จากอินโดนีเซียมที่ชื่อ oto เผยภาพสิทธิบัตรที่ว่ากันว่านี่คือการปรับโฉมครั้งแรกของ Mitsubishi Xpander Cross Facelift ทนำหน้าตาของรุ่น Xpander เวอร์ชันปกติมาเกือบหมด แต่ปรับสไตล์ยกสูงลุยสุดขั้วตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สไตล์ Dynamic Shield แตกต่างจากเวอร์ชั่นปกติ พร้อมไฟหน้า LED หรือมัลติรีเฟลกเตอร์ จะอยู่ในชุดกันชนหน้าในรูปตัว T Sideways-T รวมถึงไฟตัดหมอกหน้า ครอบทับด้วยการ์ดเสริมกันชนหน้าสไตล์ลุยและคิ้วชายล่างกันชนหน้าสามช่องเช่นเดิม คิ้วขอบล้อออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R 17 คิ้วชายล่างใหม่ ฝาท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟท้ายใหม่กลมกลืนกับกันชนหลังออกแบบใหม่เสริมครอบทับด้วยการ์ดเสริม และออพชั่นประจำรถที่ขาดไม่ได้ทั้ง กระจกมองข้างทรงสปูน ราวหลังคา และ เสาอากาศครีบฉลาม
ด้านภายในไม่ต้องพูดถึงยกชุดมาจาก Mitsubishi Xpander รุ่นปกติที่ปรับโฉมไปหรือ Xpander Cross รุ่น MY2022 สเปคไทยในแบบ Horizontal Axis กว้างขวางโปร่งสบายด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งออกแบบใหม่ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard โดยโทนสีภายในใช้โทนเข้มหรูหรายิ่งขึ้นด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มและมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน แผงประตูข้างพร้อมช่องเก็บของทั้งคอนโซลกลางซ่อนที่ใส่ทิชชู่ มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ที่พักแขนสามารถเก็บขวดน้ำได้ถึง 600 มล. มีช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะตอนที่สองแบบ Type-A และType-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC 12 โวลต์ เครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมฟังก์ชัน Max Cool แยกส่วนสำหรับด้านหลัง หน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ TFT ขนาด 4.2 นิ้วพร้อมการแสดงผลแบบภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ
ขุมพลังคงเดิมด้วยเบนซิน 1.5 ลิตร MIVEC 4A91 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ/นาที เปลี่ยนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง Eco-dynamic CVT ช่วงล่างติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพิ่มความแข็งแกร่ง ด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนขนาดของโช้คอัพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่ แต่ความปลอดภัยยังให้พื้นฐานเดิมๆทั้ง ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ป้องกันการลื่นไถล (TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) กระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) เสริมแรงเบรก (BA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ/ผู้โดยสารตอนหน้า และกล้องมองภาพด้านหลัง
จับตาแล้วว่า อินโดนีเซียจะเปิดตัวในช่วงเวลาไหนแต่คาดว่าภายในปีนี้ ซึ่งเมืองไทยยังขายรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2022 ในราคา 939,000 บาท
ที่มา OTO