More

    เปิดตัว 2025 Mini Aceman EV รุ่นใหม่ พร้อมลูกเล่นไฟท้ายเปลี่ยนสไตล์ได้

    เปิดตัว 2025 Mini Aceman EV รุ่นแฮทช์แบ็ก ก่อนวางจำหน่ายในโชว์รูมออสเตรเลีย โดยจะมีการส่งมอบในระหว่าง ตุลาคม – ธันวาคม ปีนี้

    2025 Mini Aceman EV เป็นรุ่นสุดท้ายในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ของ Mini โดยอยู่ระหว่างรถ SUV รุ่น Countryman ที่ใหญ่กว่า และ รุ่นแฮทช์สามประตู ของ Cooper ซึ่งทั้งสอง รุ่นมีให้เลือกทั้งแบบใช้น้ำมันเบนซินหรือไฟฟ้า

    มีจำหน่ายในสองรุ่นคือ E และ SE – Aceman โดยจะผลิตในประเทศจีน และได้รับการสนับสนุนโดยแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาร่วมกับ GWM ค่ายยักษ์ใหญ่ของจีน

    สไตล์การออกแบบจะมีความมินิมอลกว่ารุ่นก่อน ๆ มากในรูปแบบทรงกล่อง ล้ออัลลอยด์มีเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 17 ถึง 19 นิ้ว ในขณะที่ไฟหน้า LED และไฟท้าย LED สไตล์เมทริกซ์สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ  ผู้ซื้อในต่างประเทศสามารถเลือกระหว่างรุ่น Essential, Classic, Favorite และ JCW ได้ โดยรุ่นหลังเป็นแพ็คเกจสไตล์สปอร์ตพร้อมไฮไลท์สีแดงและกันชนที่เป็นเอกลักษณ์ โดยในเวอร์ชัน JCW ประสิทธิภาพสูงพร้อมการเพิ่มกำลังและการเร่งความเร็วที่เร็วขึ้น คาดว่าจะตามมาในภายหลัง

    ดีไซน์ภายใน ติดตั้งหน้าจอสัมผัส OLED กลางขนาด 9.4 นิ้ว ที่ใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ 9 ใหม่พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ‘Hey Mini’ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และร้านแอปฯ ที่มีวิดีโอเกมที่ดาวน์โหลดได้

    ส่วนควบคุมเครื่องปรับอากาศทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสพร้อมกับมาตรวัดความเร็ว เนื่องจากได้มีการยกเลิกแผงหน้าปัดด้านหน้าคนขับ ผู้โดยสารสามารถเลือกโหมด ‘Mini Experience’ ได้ 8 โหมด รวมถึง ‘โหมด Go-Kart’ ซึ่งจะเปลี่ยนสีของแสงภายในรถ เล่นเสียงการขับรถสังเคราะห์ต่างๆ ผ่านลำโพง และสามารถปรับเปลี่ยนกราฟิกบนหน้าจอสัมผัสได้

    รายละเอียดการออกแบบภายในตกแต่งด้วยหนังเทียมเดินด้ายที่ขอบ บนแผงคอนโซลและพวงมาลัย รวมถึงปุ่มเลือกเกียร์แบบสลับและปุ่มปรับระดับเสียง มีหลังคากระจกแบบพาโนรามา พร้อมด้วยแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบดูอัลโซน

    เบาะนั่งที่ปรับอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นได้ เบาะนั่งตกแต่งด้วยผ้าหรือหนังสังเคราะห์ ‘Vescin’ ในรุ่นปกติ โดยชุดแต่งสไตล์ JCW เพิ่มการออกแบบเบาะนั่งแบบสปอร์ตด้านหน้าหุ้มด้วยผ้าถักและหนังเทียมเคราะห์พร้อมเดินด้ายสีแดง มีพื้นที่เก็บของท้ายรถอยู่ที่ 300 ลิตร ซึ่งขยายเป็น 1,005 ลิตร โดยพับเบาะนั่งด้านหลัง

    ขุมกำลังของมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้าขนาด 135kW/290Nm และชุดแบตเตอรี่ขนาด 42.5kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. และระยะการขับขี่โดยประมาณ 310 กม. ในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ WLTP ของยุโรป

    Aceman SE อัปเกรดเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 160kW/330Nm และแบตเตอรี่ 54.2kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. และระยะการขับขี่ WLTP ที่ 406 กม.

    แบตเตอรี่ทั้งสองสามารถชาร์จอย่างรวดเร็วได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลา “เพียงไม่ถึง 30 นาที” – สูงถึง 75kW ใน Aceman E และ 95kW ใน Aceman SE – และรองรับการชาร์จ AC ที่บ้าน 11kW

    แบตเตอรี่จะถูกปรับสภาพล่วงหน้าโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้พลังงานการชาร์จที่เหมาะสมที่สุดระหว่างทางไปยังเครื่องชาร์จเมื่อเข้าสู่ระบบนำทาง ในขณะที่ Mini App ช่วยให้เจ้าของสามารถวางแผนได้ว่ารถยนต์จะชาร์จเมื่อใดหากเสียบปลั๊กไว้ข้ามคืน

    Mini เน้นย้ำถึง “ระบบกันสะเทือนที่แม่นยำซึ่งมีระบบกันโคลงอัดแรงสูง” เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น รวมถึงการบังคับเลี้ยวด้วย “อัตราส่วนแร็คที่ระยะเคลื่อนที่ของแร็ค 59.5 มม. ต่อการหมุนของล้อ

    คุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่มี ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยตั้งศูนย์เลน ระบบช่วยถอยหลังรถพ่วง และฟังก์ชั่นการจอดรถระยะไกล รวมถึงกล้อง 360 องศา เซ็นเซอร์จอดรถ และกุญแจรถที่ใช้สมาร์ทโฟน

    Mini Aceman ปี 2025 มีกำหนดที่โชว์รูมของออสเตรเลียระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2024 ราคาจะมีการประกาศเมื่อใกล้พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้


    CR : Drive.com

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts