พึ่งจะเปิดหน้าตาใหม่ที่เมืองไทยได้ไม่นานสำหรับ Honda HR-V รุ่นปรับโฉมซับคอมแพ็คเอสยูวียอดนิยมจนแฟนๆรอเป็นเจ้าของปลายเดือนพฤศจิกายน
ล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัวหน้าใหม่และราคาจำหน่ายก่อนเมืองไทยสำหรับ Honda HR-V รุ่นปรับโฉมโดยสเปกออสเตรเลียมาแบบ 2 ขุมพลังแรงทั้งเบนซินล้วนและฟูลไฮบริด
ภายนอก Exterior
ลุคใหม่ปรับสไตล์ปรับความเท่เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเส้นแนวนอนลดจำนวนเหลือ 8 เส้น จากเดิม 10 เส้น
กันชนหน้าออกแบบใหม่สปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศใหม่แนวรังผึ้งพร้อมคิ้วชายล่างสีเงิน ด้านท้ายมพร้อมกับไฟท้าย LED Light Strip ออกแบบใหม่เป็นเส้นแนวนอนเชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว และไฟเลี้ยววิ่งหน้าหลังแบบ LED Sequential
บนพื้นฐานออปชันเดิมทั้งไฟหน้า Full LED โคมเล็กลงฝังด้วยไฟหน้า Daytime LED พร้อมไฟตัดหมอก LED โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า ทั้งหน้าและหลัง กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูหลังแบบซ่อนรูปติดเสา C หลังคาด้านบนน่าจะเป็นกระจกพาโนรามิกขนาดใหญ่ Panoramic Glass Roof ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เสาอากาศครีบฉลามและล้ออัลลอย 5 ก้านคู่สีทูโทน 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18
- ความยาว 4,340 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,590 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,267-1,382 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายใน Interior
ภายในปรับปรุงเรื่องการตกแต่งใหม่ให้มีสีสันมากขึ้นพร้อมออปชันเดิมคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ลำโพงคุณภาพถึง 6 จุด กับจอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับความบันเทิง 9 นิ้ว Honda CONNECT รองรับการเชื่อมต่อไร้สายและที่ชาร์จไร้สาย ไฟในห้องโดยสารแบบ LED ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่องแบบ Type-C พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันสามก้านแบบอุ่นพวงมาลัย
เบาะนั่งหรูหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้และผ้าออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้นเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง คงเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ทั้ง Utility Mode Long Mode และ Tall Mode พร้อมแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย โดยพื้นที่ด้านท้ายเบาะหลังมีพื้นที่ 304 ลิตรแต่ถ้าพับเบาะลงไปจะมีพื้นที่มากถึง 956-1,274 ลิตร
สมรรถนะ Performance
มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 ให้กำลัง สูงถึง 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ประหยัด 23.26 กิโลเมตรต่อลิตร
พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT พร้อม Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode ขับเคลื่อน 2 ล้อ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) และยังอัปเดตการควบคุมการจัดการพลังงาน ปรับปรุงการเก็บเสียงและปรับการทำงานเสียงเครื่อง ให้เงียบ นุ่มนวล ลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ขณะขับขี่
และยังมีเบนซินล้วนขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC รหัส L15ZF ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ประหยัด 17.24 กิโลเมตรต่อลิตร
ความปลอดภัย Safety
ระบบความปลอดภัยความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning :FCW)
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane Departure Warning :LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System : RDM)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดอัจฉริยะ (Intelligent Speed Limiter: ISL)
- ระบบตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในระบบเบรกแุกเฉินอัตโนมัติ Oncoming motorcycle collision detection
- อ่านป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition System)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- เตือนมุมอับสายตา (Blind-spot monitoring: BSM) เฉพาะรุ่น e:HEV
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) เฉพาะรุ่น e:HEV
- ใหม่! ระบบตรวจจับคนเดินถนนและจักรยานในระบบเบรกแุกเฉินอัตโนมัติ Pedestrian and bicycle front cross-traffic collision
- ใหม่! ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (Traffic Jam Assist: TJA )
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold
- ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
- พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าพร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- ป้องกันล้อล็อก (ABS)
- กระจายแรงเบรก (EBD)
- ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA)
- ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
- สัญญาณกะระยะการจอดรถหน้า-หลัง Parking sensor system
Honda HR-V รุ่นปรับโฉมขาย 3 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Vi X เบนซิน, รุ่น e:HEV ทั้ง X กับ L ในราคา $34,900-$42,900 ราคารวมค่า Drive-away หรือราว 785,000-965,000 บาท
ที่มา Carexpert