Honda HR-V 2025 สายหล่อปรับโฉมที่ออสเตรเลียเริ่ม 785,000 บาท

พึ่งจะเปิดหน้าตาใหม่ที่เมืองไทยได้ไม่นานสำหรับ Honda HR-V รุ่นปรับโฉมซับคอมแพ็คเอสยูวียอดนิยมจนแฟนๆรอเป็นเจ้าของปลายเดือนพฤศจิกายน

Hondaล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัวและราคาจำหน่ายก่อนเมืองไทยสำหรับ Honda HR-V รุ่นปรับโฉมมาแบบ 2 ขุมพลังแรงทั้งเบนซินล้วนและฟูลไฮบริด

ภายนอก Exterior

ลุคใหม่ปรับสไตล์ปรับความเท่เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเส้นแนวนอนลดจำนวนเหลือ 8 เส้น จากเดิม 10 เส้น

กันชนหน้าออกแบบใหม่สปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศใหม่แนวรังผึ้งพร้อมคิ้วชายล่างสีเงิน ด้านท้ายมพร้อมกับไฟท้าย LED Light Strip ออกแบบใหม่เป็นเส้นแนวนอนเชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว และไฟเลี้ยววิ่งหน้าหลังแบบ LED Sequential

บนพื้นฐานออปชันเดิมทั้งไฟหน้า Full LED โคมเล็กลงฝังด้วยไฟหน้า Daytime LED พร้อมไฟตัดหมอก LED โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า ทั้งหน้าและหลัง กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูหลังแบบซ่อนรูปติดเสา C หลังคาด้านบนน่าจะเป็นกระจกพาโนรามิกขนาดใหญ่ Panoramic Glass Roof ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เสาอากาศครีบฉลามและล้ออัลลอย 5 ก้านคู่สีทูโทน 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18

  • ความยาว 4,340 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,590 มิลลิเมตร
  • ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักรถ 1,267-1,382 กิโลกรัม
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มิลลิเมตร
  • ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร

ภายใน Interior

Honda

ภายในปรับปรุงเรื่องการตกแต่งใหม่ให้มีสีสันมากขึ้นพร้อมออปชันเดิมคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ลำโพงคุณภาพถึง 6 จุด กับจอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับความบันเทิง 9 นิ้ว Honda CONNECT รองรับการเชื่อมต่อไร้สายและที่ชาร์จไร้สาย ไฟในห้องโดยสารแบบ LED ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่องแบบ Type-C พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันสามก้านแบบอุ่นพวงมาลัย

Honda

เบาะนั่งหรูหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้และผ้าออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้นเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง คงเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ทั้ง Utility Mode Long Mode และ Tall Mode พร้อมแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย โดยพื้นที่ด้านท้ายเบาะหลังมีพื้นที่ 304 ลิตรแต่ถ้าพับเบาะลงไปจะมีพื้นที่มากถึง 956-1,274 ลิตร

สมรรถนะ Performance

Hondaมาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 ให้กำลัง สูงถึง 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ประหยัด 23.26 กิโลเมตรต่อลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT พร้อม Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode ขับเคลื่อน 2 ล้อ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) และยังอัปเดตการควบคุมการจัดการพลังงาน ปรับปรุงการเก็บเสียงและปรับการทำงานเสียงเครื่อง ให้เงียบ นุ่มนวล ลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ขณะขับขี่

และยังมีเบนซินล้วนขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC รหัส L15ZF ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ประหยัด 17.24 กิโลเมตรต่อลิตร

ความปลอดภัย Safety

Honda

ระบบความปลอดภัยความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

  • แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า  (Forward Collision Warning :FCW)
  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane Departure Warning :LDW)
  • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System : RDM)
  • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดอัจฉริยะ (Intelligent Speed Limiter: ISL)
  • ตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Oncoming motorcycle collision detection
  • อ่านป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition System)
  • เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
  • เตือนมุมอับสายตา (Blind-spot monitoring: BSM) เฉพาะรุ่น e:HEV
  • เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) เฉพาะรุ่น e:HEV
  • ใหม่! ระบบตรวจจับคนเดินถนนและจักรยานในระบบเบรกแุกเฉินอัตโนมัติ Pedestrian and bicycle front cross-traffic collision
  • ใหม่! ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ  (Traffic Jam Assist: TJA )

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง

ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ถุงลมนิรภัยรอบคัน ป้องกันล้อล็อก (ABS) กระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) สัญญาณกะระยะการจอดรถหน้า-หลัง Parking sensor system

Honda

Honda HR-V รุ่นปรับโฉมขาย 3 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Vi X เบนซิน, รุ่น e:HEV ทั้ง X กับ L ในราคา $34,900-$42,900 ราคารวมค่า Drive-away หรือราว 785,000-965,000 บาท

ที่มา Carexpert

ABOUT THE AUTHOR

Latest Posts