ในที่สุด Mazda เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเอสยูวีที่จะทำตลาดทั่วโลกยกเว้นอเมริกากับ Mazda CX-60 เอสยูวีเจนใหม่
เอสยูวีเจนใหม่ที่ว่ากันว่าจะมาแทน Mazda CX-5 การออกมาครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากจากรถขับเคลื่อนล้อหน้ากลายมาเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง นอกจากนี้ขุมพลังจาก 4 สูบกลายมาเป็น 6 สูบแถวเรียงและเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งขุมพลังให้เลือกทั้ง Plug In Hybrid และ Mild Hybrid เข้ามาด้วย หน้าตาหรูหราตามสไตล์ Kodo Design ด้วยกระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงแนวเข้มมาเท่ด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED กันชนหน้าทรงเท่ คล้ายกับ Mazda CX-50 ผสมกับ Mazda BT-50 และที่สังเกตุคือท่อไอเสียคราวนี้มาในแบบท่อไอเสียคู่ สองฝั่ง ซ่อนอยู่ใต้กันชนหลังและช่องลมข้างบังโคลนแบบโครเมี่ยมกับเส้นสายตัวรถที่จะคล้ายกับ Mazda CX-5 เจนปัจจุบัน ล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60 R18 กับ 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20
ตัวรถพัฒนาใหม่หมดและมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น CX-5 เจนปัจจุบันตั้งแต่ความยาว 4,745 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,670-1,685 มม. น้ำหนักรถ 1,980-2,072 กก. ฐานล้อ 2,870 มม. และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายในหรูหราเทียบเท่ารถยุโรปพรีเมี่ยมด้วยมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE 12 จุด และจอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Displayขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า การตกแต่งมาแบบโทนสีใสๆ ด้วยโทนสีขาวหรือสีเทาอ่อน สดใส และสีเข้มด้วยการติดตั้งวัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นลายไม้เมเบิ้ล หรือ Mable Wood วัสดุหุ้มหนังแท้ Nappa รวมถึงการใช้ผ้าทอแบบญี่ปุ่น และการตกแต่งโครเมี่ยม โดยเป็นการตกแต่งภายในรูปแบบ “Musubu” โดยได้แรงบันดาลใจจากการเย็บเดินด้ายในชุดแผงมาตรวัดแบบประณีต และ รูปแบบดีไซน์ภายในภายใต้แนวคิด Kaichô หรือ ความกลมกลืนที่มาจากการผสมวัสดุและพื้นผิวที่แตกต่างกัน พร้อมพื้นที่การขนของมากถึง 477 ลิตร ในรุ่น PHEV กับ 570 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงมีพื้นที่ถึง 1,726 ลิตร
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล e-SKYACTIV และขุมพลังเสียบปลั๊กหรือ Plug In Hybrid e-SKYACTIV PHEV มาใช้เป็นรุ่นแรกโดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 4 สูบ รหัสPY-VPS 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 261 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไออนที่มีความจุ 17.8 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 60 กม. และทำงานร่วมกันจะได้พลังมากถึง 327 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.ประหยัดสุด 62.5 กม./ลิตร ค่า CO2 33-37 กรัม/กม. พร้อมระบบการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) ที่เลือกได้ถึง 5 โหมดได้แก่ Namely Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง e-Skyactiv X 3.0 ลิตรกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ e-Skyactiv D 3.3 ลิตร โดยทั้งสองเครื่องจับคู่กับระบบ Mild Hybrid MHEV 48 V โดยทุกขนาดขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 8สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ AWD พร้อมระบบ ควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinemetic Posture Control) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ จานเบรกหน้ามีขนาด 347 มม. และด้านหลัง 328 มม.
พร้อมความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงเมื่อเผชิญเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน อาทิ กล้องรอบคัน 360 องศา 360-degree View Monito, แจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ Vehicle Exit Warning, ระบบตีความป้ายจราจร Traffic Sign Recognition, ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance Advanced Smart City Brake Assist with pedestrian and cyclist detection and intersection function, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติสำหรับถอยหลัง Rear Emergency Brake Assist with pedestrian detection, ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist with Steering Assist, ตรวจจับภาวะหลับในขณะขับขี่ยานพาหนะ Drowsiness Detection เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Monitoring เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ i-Adaptive Cruise Control, ออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist, และไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signaling System
Mazda CX-60 ประกอบที่ประเทศญี่ปุ่นที่โรงงาน Hofu Plant No. 2 โดยญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายเมษายนนี้ ส่วนออสเตรเลียขายปลายปีนี้ ส่วนอังกฤษเริ่มขายแล้ว โดยเมืองไทยมีแนวโน้มสูงที่จะเข้าจำหน่ายพร้อม Mazda CX-80 7 ที่นั่ง