สาเหตุที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถนั้นมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจากอาหารที่คุณนำขึ้นไปกินบนรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในด้วยวิถีชีวิตที่ต้องเร่งรีบ คนส่วนใหญ่มักนำอาหารขึ้นไปกินระหว่างขับรถ หรือจะเป็นกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่เปียกชื้นหลังจากคุณออกกำลังกายมา และขึ้นมานั่งพิงเบาะผ้า ฯลฯ อีกมากมายหลายปัจจัย ซึ่งเราลองมาดูกันว่า ถ้ารถของคุณสะสมกลิ่นเหล่านี้จนติดแก้ไม่หายขึ้นมาแล้ว ต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร
- เริ่มต้นจากการหาของที่มีสรรพคุณในการดูดกลิ่น อาทิ ถ่านไม้ กากกาแฟ เบกกิ้วโซดา นำใส่ภาชนะแบบเปิดมาวางไว้ในมุมต่างๆ ของรถ เพื่อช่วยดูดซับกลิ่นเหม็นภายในรถได้
- หมั่นเก็บเศษขยะภายในรถเป็นประจำ พร้อมดูดฝุ่นตามพรม และซอกมุมต่างๆ ให้เรียบ หรืออาจจะนำรถไปล้างดูดฝุ่นที่ร้านคาร์แคร์อย่างน้อยๆ เดือนละครั้ง เพื่อความสะอาดหมดจด
- นำน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ มาวางไว้ในรถ เพื่อไล่กลิ่นอับออกไปให้รถคุณได้หอมสดชื่นยิ่งขึ้น
- ลองใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำสะอาดในอัตราที่เท่ากัน ใส่กระบอกฟ้อกกี้ เพื่อมาฉีดพ่นให้ทั่วตัวรถ เมื่อแห้งแล้ว กลิ่นเหม็นอับเหล่านั้นจะหายไป หรือแม้แต่การนำน้ำส้มสายชูมาใส่ภาชนะ แล้วนำมาวางไว้ในรถ ประมาณครึ่งวัน กลิ่นเหม็นอับภายในรถจะหายไป
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดส่วนต่างๆ ภายในรถ ด้วยการนำน้ำผสมผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างจานมาเช็ด หลังจากนั้นนำน้ำสะอาดชุบผ้าบิดให้หมาดมาเช็ดซ้ำ ตามด้วยการเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกรอบ
- เมื่อขับรถใกล้ถึงบ้าน ให้คุณปิดโหมด A/C แล้วเปิดพัดลมให้แรงขึ้น เพื่อไล่ความชื้นที่อยู่ในช่องแอร์ออกมาให้มากที่สุด อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้แอร์อีกด้วย เพราะการที่ตู้แอร์ชื้นนั้น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อากาศภายในรถยนต์ของคุณเหม็นอับ
- ใช้เสปรย์ปรับอากาศทุกครั้ง หลังจากที่คุณนำอาหารขึ้นรถ แต่ต้องบอกว่าเสปรย์น้ำหอมปรับอากาศมีผลต่อตู้แอร์ของคุณหากใช้ไปนานๆ จะทำให้ตู้แอร์ของคุณอุดตันได้
- เปิดประตู หรือหน้าต่างรถทิ้งไว้ในวันที่แดดจัด เพื่อกำจัดความชื้นภายในรถ รวมถึงเพื่อให้อากาศภายในรถได้ถ่ายเทมากขึ้น
หากคุณทำตามคำแนะนำทั้ง 8 ข้อนี้ได้เป็นประจำ รถของคุณก็จะไร้กลิ่นเหม็นอับชื้นมากวนใจ ทำลายสมาธิในการขับรถของคุณได้อีก
