More

    ขนส่งไม่ปราณี!! แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ ปรับจริง พักขับจริง

    ตามที่มีข่าวผ่านสื่อออนไลน์กรณีผู้ขับรถแท็กซี่มีพฤติกรรมใช้กิริยาไม่สุภาพต่อผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และไม่กดมิเตอร์ค่าโดยสารและยังมีการพกอาวุธไว้เพื่อข่มขู่ผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมินั้น ถูกปรับ 2,000 บาท และตัดแต้มผู้ขับรถสาธารณะจนถูกพักใช้ใบอนุญาต 90 วัน

    กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 06:28 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทส 6775 กรุงเทพมหานคร มีนายถวิล ช่องงาม เป็นผู้ขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ จึงได้เรียกให้เข้ามารายงานตัวและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ขับรถยอมรับว่าได้แสดงพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหาจริง

    ในการนี้ กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวของผู้ขับรถแท็กซี่ มีความผิดตามพรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 57 ฉ (2) ประกอบมาตรา 66/2 ฐานแสดงกิริยาไม่สุภาพต่อผู้โดยสาร และตามมาตรา 5 (2) ประกอบมาตรา58 ฐานไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร จึงได้ดำเนินการลงโทษ ดังนี้

    1.เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท

    2.ตัดคะแนนในใบอนุญาตขับรถสาธารณะทันที 100 คะแนน จนเหลือคะแนน 0 คะแนน ส่งผลให้ถูกพักใช้ใบอนุญาตผู้ขับรถสาธารณะเป็นเวลา 90 วัน

    3.ให้เข้ารับการอบรมการสร้างจิตสำนึกที่ดี กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

    ทั้งนี้ ในส่วนของพฤติกรรมการพกอาวุธมีดนั้น สภ.สุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ขับรถในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นเงิน 1,000 บาท แล้ว

    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการกำหนดเขตให้บริการแท็กซี่โดยไม่กดค่าโดยสารจากทาง เว็บไซต์ “ราชกิจจานุเบกษา” เผยแพร่ ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดท้องที่ที่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถใช้วิธีตกลงราคานอกจากการใช้มาตรค่าโดยสาร (มิเตอร์) พ.ศ. 2565

    โดยประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่สภาพข้อเท็จจริงในปัจจุบัน รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครที่รับจ้างส่งผู้โดยสารไปยังจังหวัดต่าง ๆ ประชาชนผู้ใช้บริการและผู้รับจ้างนิยมใช้วิธีการตกลงราคาหรือเช่าเหมาแทนการคิดค่าโดยสารจากมาตรค่าโดยสาร

    ซึ่งการดำเนินการด้วยวิธีการดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน สมควรปรับวิธีการเรียกเก็บค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารให้มีความยืดหยุ่นและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เกิดความคล่องตัวในการรับจ้างที่มีระยะทางไกล และเป็นไปตามความตกลงของผู้ใช้บริการและผู้ขับรถยนต์รับจ้าง

    อาศัยอำนาจตามความในข้อ 13 วรรคสอง แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน พ.ศ. 2560 ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 อธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

    1. กำหนดท้องที่การรับจ้างของรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ทำการรับจ้างนอกเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครปฐม

    รวมถึงกรณีการรับจ้างในเขตจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งต่อเนื่องไปสิ้นสุดการรับจ้างนอกเขตจังหวัดดังกล่าว สามารถใช้วิธีตกลงราคาเรียกเก็บค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารนอกจากการใช้มาตรค่าโดยสารได้ด้วย

    2. ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

    ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตกลงร่วมกันระหว่างผู้โดยสารและผู้ขับตามสถานการณ์ด้วย ว่ายินยอมให้กดมิเตอร์ หรือไม่กดมิเตอร์ในแต่ละพื้นที่ หากตกลงร่วมกันได้แล้วตามความสมัครใจ ก็สามารถเดินทางได้ตามข้อตกลง


    บทความอื่น ๆ 

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts