หลังเผยรูปโฉมนวลพรรณกันไปแล้วของเก๋งซีดานขวัญใจทั่วโลกอย่าง Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 ทำให้สาวกทั่วโลกรอคอยที่อยากจะเป็นเจ้าของ
ล่าสุด Honda USA เปิดราคาจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ เจเนอเรชันที่ 11 หล่อสมฐานะกับกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมไส้ในรังผึ้ง ไฟหน้า LED แนวยาวในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตรวมถึงไฟท้าย LED แนวยาวล้อมฝาท้ายที่คล้ายๆรถยุโรปและสปอยเลอร์หลังดีไซน์เพรียวแบบเดียวกับ Civic FE ช่วยให้รถคันนี้ดูดีขึ้นมาทันที ส่วนด้านข้างมีความสปอร์ตคล้าย Civic FE โดยเฉพาะเส้นสายที่ชายประตูล่างรวมถึงกระจกโอเปร่าสไตล์เด่นโดยภาพรวมอาจคล้ายรถทรง Fastback 5 ประตูทั้งๆที่ความจริงมันคือ 4 ประตูซีดานแต่ก็ยังคล้ายๆ Honda Accord เจนที่ 10 พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R17 และ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/40R19
ภายในยังเผยภาพจอสัมผัสขนาดใหญ่เลือกได้ตั้งแต่ขนาด 7 กับ 12.3 นิ้ว และเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีมาตรวัดดิจิทัลมาด้วยโดยดีไซน์มาตรวัดจะคล้ายกับ Honda Civic ขนาด 10.2 นิ้ว รองรับ Android Auto Apple CarPlay รวมถึงอัปเดตออนไลน์ over-the-air มี Google ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์ และลำโพง BOSE 12 จุด ออปชันประจำรถทั้งระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging การตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ช่องแอร์ด้านหลัง และควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card พกพาสะดวกเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว รวมถึงดีไซน์แผงคอนโซลหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน และพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 473 ลิตร แถมยังขยายพื้นที่วางในส่วนผู้โดยสารด้านหลังมากถึง 1,036 มม. มากกว่า Honda Accord เจนที่แล้วถึง 10 มม.
ขุมพลังหยิบยืมมาจากเจเนอเรชันที่ 10 มาพัฒนาตั้งแต่ Full Hybrid e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC รหัส LFB1 ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ให้กำลังรวม 204 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ทั้งแบบคันเกียร์และแบบ Shift-By-Wire มาพร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดทั้ง โหมด ECON, Normal, Sport และ Individual และเครื่องยนต์เบนซิน Di VTEC TURBO 1.5 ลิตร L15BG 195 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,000 รอบ/นาที ไดเรคอินเจคชันฉีดตรง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง โหมด ECON และ Normal
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 ผลิตที่โรงงานเมือง Marysville รัฐ Ohio ขายทั้งหมด 6 รุ่นย่อยตั้งแต่รุ่นเครื่องเทอร์โบ 1.5ลิตรทั้ง LX, EX กับขุมพลัง e:HEV ทั้งรุ่น Sport, EX-L, Sport-L และ Touring ในราคาเริ่มต้น $28,390- $38,985 หรือราว 965,000-1,324,000 บาท ส่วนเมืองไทยอาจพบกันภายในปีนี้
ที่มา Carscoops
