More

    Mitsubishi Triton จำหน่ายในไทยเป็นที่แรกเริ่ม 699,000 บาท

    ประเทศไทยเป็นที่แรกของโลกกับการเปิดตัว Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 และเป็นที่แรกของโลกที่เปิดขายอย่างเป็นทางการ

    MitsubishiMitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ดีไซน์การออกแบบมาในสไตล์ BEAST MODE ด้านหน้ามาในสไตล์ Dynamic Shield ทั้งดีไซน์ภายนอกใหม่หมดตั้งแต่กระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบ ตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลังระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้นลง

    • ชุดไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าและชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจ และมีไฟหน้ามัลตีรีเฟลกเตอร์ให้เลือก
    • ลงตัวด้วยชุดกระจังหน้าเข้มพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi บนขอบกระจังหน้า
    • ด้านข้างมีเส้นสายบึกบึนออกแบบช่องไฟระหว่างด้านหลังตัวรถและแนวกระบะเป็นแนวทางเดียวกันงานนี้ไม่โค้งเหมือนแต่ก่อนแล้วกระจกหลังยังโค้งเช่นเดิมแถมมีคิ้วขอบล้อเพิ่มมาเติมความกลมกลืนกับตัวรถด้านท้ายมีสปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H
    • ล้ออัลลอยและกระทะล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205R16C, 265/70 R16 กับขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17 และใหญ่สุด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18

    ตัวรถใหญ่ขึ้นด้วยโครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น ยังมีความแข็งแรงสมบุกสมบันที่เหนือชั้น โดยรุ่น Double Cab มีมิติตัวรถตั้งแต่

    • ความยาว 5,320 มม.
    • ความกว้าง 1,865 มม.
    • ความสูง 1,765 มม.
    • ฐานล้อ 3,130 มม.
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 222 มม.
    • ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
    • มิติกระบะภายใน ความยาว 1,555 มม. ความกว้าง 1,545 มม. ความสูง 525 มม.

    โดยรุ่น Single Cab มีมิติตั้งแต่

    • ความยาว 5,265 มม.
    • ความกว้าง 1,865 มม.
    • ความสูง 1,765 มม.
    • ฐานล้อ 3,130 มม.
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 203 มม.
    • ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
    • มิติกระบะภายใน ความยาว 2,340 มม. ความกว้าง 1,580 มม. ความสูง 515 มม.

    Mitsubishi

    ภายในห้องโดยสารและแผงคอนโซลหน้าควบคุมภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง คำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตและใช้วัสดุคุณภาพสูงพร้อมตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงการปกป้องเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยเติมเต็มความใส่ใจในทุกการออกแบบอย่างประณีต

    สวิตช์ควบคุมต่างๆ ได้รับการออกแบบให้มองเห็นได้อย่างโดดเด่นควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนา ทั้งพวงมาลัย ก้านจับ และมือจับเปิดประตู ล้วนได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Mitsubishi Touch เน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือ พร้อมออปชันประจำตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นดังนี้

    • ชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID 7 นิ้ว และมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 3.5 นิ้ว
    • แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดามีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มม. ได้มากถึง 4 ขวด
    • ตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพโดยในทุกพื้นที่ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้าช่องวางสมาร์ทโฟนและช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือ
    • แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด
    • แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม
    • จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอ กับขนาด 10 นิ้ว รองรับ FM/AM/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
    • ลำโพงติดรถ 4 กับ 6 จุด
    • เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า และ 6 ทิศทางปรับด้วยมือ
    • วัสดุหุ้มเบาะมาแบบผ้ากำมะหยี่สีดำและหุ้มกึ่งหนังแท้สีดำ
    • เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติและมือหมุนธรรมดาแบบ Full Mode Control
    • มือจับหลังคา มีตั้งแต่ 3 ตำแหน่ง / 7 ตำแหน่ง และ 8 ตำแหน่ง
    • พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง

    Mitsubishiขุมพลังที่ทำตลาดช่วงแรกจะเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันคลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นขนาด 2.4 ลิตร 4N16 Mid Power ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250-2,500 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์เพิ่มความสะดวกสบายพร้อมระบบขับเคลือนสองล้อยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งแบบ Easy Select 4WD และ Super Select 4WD II

    สำหรับระบบ Super Select 4WD-II และ Easy Select 4WD มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง

    • ระบบ Super Select 4WD-II ในรุ่น Double Cab 4WD มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง)  Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)
    • ระบบ Easy Select 4WD ในรุ่น Single Cab 4WD สามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H, 4H และ 4L ตอบโจทย์การใช้งานในเส้นทางที่หลากหลาย

    Mitsubishi

    พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ได้รับการติดตั้งพร้อมกับ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค

    พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบบังคับเลี้ยวทุกรุ่นจะเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนและระบบความปลอดภัยดังนี้

    • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC)
    • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL)
    • ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
    • เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
    • สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)
    • สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
    • เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
    • กล้องมองภาพรอบคัน MAM

    พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง

    • เบรก ABS
    • กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
    • ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS)
    • เพื่อช่วยเบรก เสริมแรงเบรก (BA)
    • ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
    • ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
    • ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB)
    • ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน (คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านนิรภัย/หัวเข่าใต้คนขับ)
    • ถุงลมนิรภัย 3 จุด (คู่หน้าและหัวเข่าใต้คนขับ)
    • เซ็นเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง
    • กล้องมองภาพถอยหลัง

    Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 มีสีภายนอกดังนี้ สีส้ม Yamabuki Orange Metallic สีอบรอนซ์เงิน Blade Silver Metallic, สีขาวมุก White Diamond, สีขาว Solid White, สีเทา Graphite Gray Metallic และสีดำ Jet Black Mica มีราคาจำหน่ายดังนี้

    Mitsubishiรุ่น Single Cab 4WD
    – PRO 4WD 699,000 บาท
    – PRO 4WD Auto 749,000 บาท

    Mitsubishi

    รุ่น Double Cab
    – PLUS PRO 820,000 บาท
    – PLUS PRIME 893,000 บาท
    – PLUS PRIME Auto 938,000 บาท
    – PLUS ULTRA 982,000 บาท
    – PLUS ULTRA Auto 1,027,000 บาท
    – PRIME 4WD 1,016,000 บาท

     

     

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts