ตรีเพชรอีซูซุเซลส์รุกตลาดช่วงปลายปีแนะนำ ISUZU D-MAX MAXFORCE เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAX FORCE ครั้งแรกของวงการปิกอัพเพิ่มความแรงและประหยัด
ISUZU D-MAX MAXFORCE เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAX FORCE มาในร่างเดิมหน้าตาเดิมเพิ่มสีสันด้วยใหม่และทางเลือกใหม่อีก 2 รุ่นย่อย
ภายนอกยังคงเดิมด้วยดีไซน์สะกดทุกสายตาตั้งแต่ฝากระโปรงจดกันชนหน้า กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่แบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey สอดรับกับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับกระจังหน้ามีช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมลายรังผึ้งพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/70R16 และขนาด 18 นิ้ว 6 ก้านคู่ ปัดเงาและสีเงิน ดีไซน์แบบ Turbine Spiral พร้อมยาง 265/60 R18 ส่วนล้อและยางขนาดอื่นยังคงเดิมทั้ง กระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 215/70R15 กระทะล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205R16C ขนาด 17 นิ้วลาย Aeroscrew พร้อมยาง 255/65R17
รุ่น V-Cross 4×4 สะท้อนเอกลักษณ์แห่งพรีเมียมสปอร์ตออฟโรดตั้งแต่กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สีเทาดำและ Black Chrome การ์ดเสริมกันชนหน้าออกแบบใหม่เรียบเนียนเข้ากับกันชนหน้า ล้ออัลลอย 6 ก้านขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Rugged & Wild สีดำด้าน Matte Black เท่ แกร่ง ดุดัน คิ้วขอบล้อ
Fender Lip ดีไซน์ใหม่กลมกลืนกับลายล้อ คิ้วเสริมขอบกระบะท้าย Robust Extender ดีไซน์ใหม่ ครบครันความเข้มอย่างเต็มรูปแบบด้วยชุดแต่งรอบคันทั้งกระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง แบบสีเทาดำด้าน และไลเนอร์ปูกระบะ
ภายในยกระดับความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียมโดดเด่นด้วย “Miura” Design หรูหรามีมิติ ภายใต้แนวคิด High-Class & Sophisticated แผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง รุ่น V-Cross 4×4 มาในโทนสีทูโทน ดำ-น้ำตาล รุ่น Hi-Lander โทนสีดำเงิน
ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทางดีไซน์ใหม่ หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 และ 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง
พร้อมออปชันเดิมปรับใหม่ทั้งเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางและเทคโนโลยี COOLMAX ลดการสะสมความร้อน ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
ปลดล็อกพร้อมลุยทุกงานบรรทุกหนักด้วยขุมพลังแรงและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS ขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พลังแรงเพิ่มขึ้นสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที
พัฒนาให้แรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้น 56% ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม สูงสุด 10.7 % ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้นใหม่! หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. พร้อม ใหม่! ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง
ใหม่! E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใหม่! ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION ที่ให้แรงเสียดทานต่ำพิเศษ เสื้อสูบแกร่งพิเศษ แบบ EXTREME STRENGTH พร้อมระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่! HI-FLOW และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า TIMING GEAR & CHAIN
มาพร้อมระบบส่งกำลังใหม่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ REV TRONIC รุ่น LB500 ครั้งแรกของอีซูซุให้อัตราทดเกียร์ต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็วและใหม่! เกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT รุ่น MVL6-K พร้อมอัตราทดใหม่ออกตัวได้ดีขึ้นแม้บรรทุกหนั และให้ความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูงให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาตรฐานและรุ่นยกสูง Hi-Lander
และขุมพลังยอดนิยมที่คนไทยต่างไว้ใจยาวนานด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo รุ่น 4JJ3-TCX E5 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีพัฒนากล่อง ECM ใหม่ แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic และ Paddle Shift
มีระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นทั้ง 2 เครื่องยนต์และผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย EURO5 ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอร์เตอร์
ยังคงสามารถรักษาสมรรถนะรถประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue ต่างกับเทคโนโลยีบำบัดไอเสียอื่นๆที่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เช่น AdBlue ตลอดการใช้งาน เป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้รถ
เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น V-Cross 4×4 มาแบบ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายเหนือกว่าคล่องตัวทั้งในเมือง และนอกเมือง
ช่วงล่างแกร่งทนเกาะถนนเหนือชั้นด้วยโครงสร้างตัวถังแพลตฟอร์ม “ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM” ที่ออกแบบมิติฐานล้อและช่วงล้อหน้า-หลัง เพื่อดุลยภาพในการขับขี่ทั้งขณะรถเปล่า และการบรรทุกหนัก ความปลอดภัย ADAS ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ประกอบด้วยฟังก์ชันความปลอดภัยทั้ง
- ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention assist)
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning
- หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake
- เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
- เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
- ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
- ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
ระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน BA ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องกันการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู
ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot monitoring
ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อม Integrated Wiper Blade ระบบฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type สะอาดหมดจด Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
ISUZU D-MAX MAX FORCE มีสีทั้งหมด 6 สี ตั้งแต่สีใหม่ สีเทา เอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque), สีส้ม นามิบู ไมก้า Namibu Orange Mica, สีดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica), สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) (เพิ่มเงิน 7,000 บาท) สีขาวไซบิเรียนไวท์ Siberian White ทั้งหมด 44 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายดังนี้
รุ่น 4 Door 3.0 M Auto ราคา 1,277,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 4 Door 3.0 ZP Auto ราคา 1,209,000 บาท (รุ่นใหม่)
รุ่น 4 Door 3.0 ZP ราคา 1,169,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 4 Door 3.0 Z ราคา 1,054,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 2 Door 3.0 Z ราคา 937,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 4 Door 3.0 M Auto ราคา 1,164,000 บาท บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 4 Door 3.0 ZP ราคา 1,056,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 4 Door 2.2 M Auto ราคา 1,137,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 ZP Auto ราคา 1,064,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 ZP ราคา 1,056,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 36,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 Z Auto ราคา 991,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 Z ราคา 952,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 L Auto ราคา 924,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 4 Door 2.2 L ราคา 885,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 2 Door 2.2 ZP Auto ราคา 952,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 2 Door 2.2 Z Auto ราคา 885,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 2 Door 2.2 Z ราคา 841,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 2 Door 2.2 L Auto ราคา 822,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 2 Door 2.2 L ราคา 778,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
- Cab4 สี่ประตูขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน
รุ่น 2.2 Z ราคา 895,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 2.2 L Auto ราคา 873,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 2.2 L ราคา 829,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 2.2 S Auto ราคา 793,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 7,000 บาท)
รุ่น 2.2 S ราคา 749,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 2.2 L Auto ราคา 777,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
รุ่น 2.2 L ราคา 733,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
รุ่น 3.0 S ราคา 693,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 2.2 S Auto ราคา 712,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 7,000 บาท)
รุ่น 2.2 S ราคา 668,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 3.0 S Auto 4WD ราคา 787,000 บาท (รุ่นใหม่)
รุ่น 3.0 S 4WD ราคา 740,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 3.0 S ราคา 648,000 บาท (ราคาเดิม)
รุ่น 2.2 S Auto ราคา 672,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 7,000 บาท)
รุ่น 2.2 S ราคา 628,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 2.2 B ราคา 595,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 2.2 B Flat Deck ราคา 692,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 2.2 Cab Chassis Auto Refrigerator ราคา 602,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 7,000 บาท)
รุ่น 2.2 Cab Chassis Refrigerator ราคา 563,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)
รุ่น 2.2 Cab Chassis ราคา 558,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)