Toyota พร้อมแล้วที่จะเลือกไทยเป็นที่เปิดตัว Toyota Hilux เจเนอเรชันที่ 9 ก่อนใครในโลก ด้วยดีไซน์ใหม่หมดแกร่งเหนือนิยาม
Toyota Hilux 2026 เจเนอเรชันใหม่กระบะที่เกิดจากโครงการ IMV หรือ Innovative International Multi-purpose Vehicle
ด้วยหน้าตาคล้าย Toyota Tacoma เจนใหม่ในส่วนของชุดกันชนหน้าทรงเหลี่ยมพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สีดำทรงสามเหลี่ยม
ฝากระโปรงหน้ารถดีไซน์นูนๆขึ้นรูปสวยงามกระจังหน้ามาแบบตราอักษร Toyota แทนตราสามห่วง ทรงสามเหลี่ยมไส้ในตาข่าย ประกบไฟหน้า Bi-Beam LED กับไฟ LED Daytime ในโคมดียวกันแบบโคมเล็กลง และมีไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลมติดมาด้วย
ด้านข้างมาพร้อมบังโคลนหน้า-หลังออกแบบใหม่รวมถึงดีไซน์กระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์เลขสามจากรุ่น Tacoma คิ้วขอบล้อสีดำทรงคุ้นเคยกับล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60R18 แบบ A/T และยาง H/T และขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17
ภายในคาดว่าดีไซน์ภายในผสมกับความเป็น Land Cruiser Prado เจนใหม่ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID สีตั้งแต่ขนาด 7 นิ้ว กับขนาดใหญ่สุด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สายทั้ง Apple Car play และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส ติดตั้งลำโพงคุณภาพจาก JBL ที่เสียบชาร์จ USB-C 2 จุด USB-A 1 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย ที่วางแก้ว 13 จุด หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านติดตราอักษร Toyota
ทางด้านขุมพลังคาดว่ายังคงใช้บริการตระกูล GD เช่นเดิมแต่อาจมีการปรับกำลังให้ทันใจขึ้นจากพื้นฐานดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.8 ลิตร 1GD-FTV High Power 224 แรงม้าที่ 3,000 รอบต่อนาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบต่อนาที กับ Mid Power 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาทีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400–3,400 รอบต่อนาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา
คาดว่าระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift ยกมาจาก Toyota Land Cruiser และเกียร์ธรรมดา เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time แบบ Shift-On-The-Fly ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC และระบบเฟืองท้าย Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
มีความเป็นไปได้ว่าอาจเสริมระบบ Mild Hybrid ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าในชุดเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับ DC-DC Converter แปลงความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงไปใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ ประจุเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48V น้ำหนักประมาณ 7.6 กิโลกรัมติดตั้งใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลัง
เลี้ยงระบบไฟฟ้าภายในรถเสริมพละกำลังการขับเคลื่อนแรงทันใจโดยเฉพาะในช่วงออกตัวและเร่งแซงติดตั้งระบบหยุดการทำงานเครื่องชั่วคราวขณะเหยียบเบรกหรือ Start/Stop System และยังปรับรอบเดินเบาจาก 720 เป็น 600 รอบต่อนาที รวมถึงดิสก์เบรก 4 ล้อ และความปลอดภัย Toyota Safety Sense
เบื่องต้น Toyota HILUX เปิดตัวเต็มรูปแบบโดยเมืองไทยที่แรกของโลก จับตาสเปกไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใดนั้นพบกัน 10 พฤศจิกายน และจะใช่ชื่อสร้อยว่า TRAVO หรือไม่ต้องติดตาม
