เป็นที่รู้จักทั่วโลกถูกใจสาวกสามห่วงเป็นแน่แท้สำหรับ Toyota Corolla Cross นำพื้นฐาน Corolla/Corolla Altis มาเป็นแอสยูวียกสูง
หลังจากที่อเมริกาเปิดตัวเมื่อช่วงปีกลายกับหน้าเก่าหน้าบึ้งครั้งนี้ไม่บึ้งอีกต่อไปด้วยหน้าใหม่หล่อใหม่แบบเดียวกับสเปคญี่ปุ่นกับจีนเริ่มที่กระจังหน้าอกกแบบใหม่โดยมีช่องระบายอากาศดีไซน์เรียวเล็ก พร้อมโลโก้สามห่วง ไฟหน้าโคมใหม่แบบ LED กับDaytime Running Lights LED แบบ Light Guiding มาพร้อมระบบควบคุมการเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home กันชนหน้าทรงสปอร์ตแต่ออกแบบใหม่ โดยย้ายตำแหน่งไฟตัดหมอกหน้า LED ออกไปอยู่ชอบกันชนหน้า ล้ออัลอลยลายใหม่ขนาด ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 และ 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18 ส่วนด้านท้ายปรับเปลี่ยนด้วยทั้งไฟท้าย LED Light Guiding สีขาวแดง พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กันชนหลังออกแบบใหม่ ราวหลังคาระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated และที่เหนือกว่าด้วยหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า แบบพาโนรามิก
ภายในปรับใหม่หรูด้วยมาตรวัดพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และยังสตรีมเพลงจากแอป Amazon Music และ Apple Music เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone เย็นสบายทั้งคันพร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อม SofTex ลดการสะสมความร้อน พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 438 ลิตร เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังเบนซินตระกูล Dynamic Force ที่นอกจากจะมี เบนซิน M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift แล้วยังมีขุมพลัง Hybrid เจนที่ 5 ด้วยรหัส M20A-FXS 2.0 ลิตร 152 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 190 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบ/นาที พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 65 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 197 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่มีแรงดันไฟ 216 โวลต์ 6.5 แอมป์ชั่วโมง เพิ่มเซลส์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 180 เซลส์ และความจุแบต 6.5 Ah คาดว่าทางยุโรปจะได้ใช้ระบบ Hybrid เจน 5 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVTเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four พิเศษตรงที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังมาด้วยให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า
พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 พัฒนาใหม่ทั้งระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System with Acceleration Suppression and Intersection Cut-In Traffic Assist ที่สามารถตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์ในบางสภาวะแถมจดจำช่องทางได้ ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA), จดจำป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA), ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Blind Spot Monitor with Safety Exit Assist เตือนการถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams
Toyota Corolla Cross รุ่นปรับโฉมมีทั้งรุ่นเริ่มต้น S, SE, XSE, LE และ XLE ผลิตที่โรงงานในเมืองฮันต์สวิลล์ รัฐอัลแบมา และขายจริงในปลายปีนี้ที่อเมริกา
ที่มา Carscoops