ในที่สุด BMW เผยวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ BMW i7 อัครซีดานหรูขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนเพื่อให้ชาวไทยหัวใจรักษ์พลังงานได้สัมผัส
The New BMW i7 หน้าตาเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่ทรงอลังการงานสร้าง ไฟหน้า Crystal LED ตาสองชั้นแบบเดียวกับรุ่น X7 LCI รุ่นปรับโฉม ส่วนบนจะเป็นไฟ LED Daytime พร้อมเส้นแนวนอนคั่นกลางไว้ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED ดีไซน์เพรียวลงกว่าเดิม แถมออกแบบชุดกันชนหน้าให้เป็นหนึ่งเดียวกับอย่างลงตัว ด้านข้างพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย ที่เปิดประตูแบบซ่อนรูปเนียนกับตัวถังไฟท้าย LED ที่เพรียวลงพอๆกับด้านหน้าและกันชนหลังที่ลงตัวและย้ายชุดป้ายทะเบียนมาไว้ในชุดกันชนหลังเป็นครั้งแรก ล้ออัลลอยเลือกได้หลากหลายขนาดตั้งแต่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R19 กับขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 255/45R20 และยางหลัง 285/40R20 และยังมีขนาด 21 กับ 22 นิ้วให้เลือก พร้อมขอบสีฟ้าตั้งแต่ขอบโลโก้ BMW คิ้วช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้า คิ้วชายล่างตรงล้อหน้า และ คิ้วกันชนหลัง
อภิมหาจอสัมผัสก็ว่าได้เพราะเขาใจดีให้มาตั้ง 31 นิ้ว แบบ BMW Theater Screen ลอยตัวติดบนหลังคา จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 14.9 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัวพร้อมระบบ iDrive 8 เวอร์ชันล่าสุด แถมมีผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant มาให้ด้วย และการตกแต่งภายในใหม่ทั้งแถบไฟบนแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตู Ambient Light พร้อมปุ่มควบคุมแบบจอสัมผัสด้านหลังติดแผงประตู 5.5 นิ้ว พร้อมหลังคารถแบบ Sky Lounge panoramic ไฟ LED ส่องสว่างในห้องโดยสาร เด็ดสุดก็คือลำโพงขั้นเทพ Bowers & Wilkins ระดับขั้นสูง Diamond Sound 4D ให้รอบคันถึง 36 จุด กำลังขับ 1,965 วัตต์ ซึ่งเป็นออปชันเสริมแต่มาตรฐานให้ 18 จุด กำลังขับ 655 วัตต์ จอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิถึง 4 โซน และเบาะหนังคุณภาพ Merino
ขับเคลื่อนพลังไฟฟ้าล้วน eDrive ด้วยความจุแบตเตอรี่ 101.7 kWh ให้กำลังมากถึง 544 แรงม้าที่ 5,000-12,000 รอบ/นาที แรงบิด 745 นิวตันเมตรที่ 0-5,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ วิ่งไกลสุด 590-625 กม. (WLTP) ความเร็วสูงสุด 240 กม. 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.7 วินาที การชาร์จเริ่มที่ชาร์จช้าแบบ Wallbox (AC 3 เฟส 11 kW) จาก 10-100% ใช้เวลาน้อยกว่า 9.5 ชม. และชาร์จเร็ว DC 195 kW จาก 10-80% ใช้เวลา 34 นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Two-Stage Single Speed ในรุ่น i7 xDrive60
พร้อมช่วงล่างแบบถุงลมแบบ Four-Corner ปรับระดับอัตโนมัติ และโช้กอัพไฟฟ้า พร้อมเลี้ยวสี่ล้อที่ล้อหลังมีระบบช่วยบังคับเลี้ยวล้อ Integral adaptive steering ช่วยหักเลี้ยวล้อหลังในอัตราสูงสุด 3.5 องศา พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Driving Assistant กับให้เลือกในส่วนระบบ Driving Assistant Professional พร้อมช่วยขับอัตโนมัติระดับที่ 2 ที่ควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน และยังเปลี่ยนเลนเองได้และยังพัฒนาระบบช่วยจอดอัตโนมัติ แถมยังจอดรถผ่านมือถือได้ด้วยระบบ Remote Smartphone Parking
BMW i7 พร้อมมาไทย 11 ตุลาคมนี้ก่อนงาน Motor Expo 2022 ช่วงเดือนธันวาคม ส่วน BMW 7 Series เจเนอเรชันที่ 7 ในรหัส G70 และ G71 จะตามมาพร้อมกันหรือแยกเปิดตัวทีหลังต้องติดตาม