และก็มาถึงรุ่นยอดนิยมขวัญใจคนสู้งานทนพร้อมลุยกับ Nissan Navara MY2024 โดยรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริงนั่นก็คือ Nissan Navara King Cab
Nissan Navara King Cab MY2024 มาในร่างเดิมรหัส D23 ตอนครึ่ง King Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อมาตรฐานมากัน 2 รุ่นย่อย
ภายนอก Exterior
ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ลงตัวด้วยกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ เสาอากาศแบบเสาสั้น กระจังหน้าสไตล์ Interlock พร้อมตรา Navara ไฟท้ายสีขาวแดง ในรุ่น E ตกแต่งหรูด้วยกระจังหน้าโครเมียม มือจับประตูตกแต่งด้วยโครเมียม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว กันชนหลังสีดำเพิ่มสเต็ปด้านท้ายรถสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นลงและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65R17 ส่วนรุ่น SL กระจังหน้าที่เปิดประตู กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ทั้งหมดตกแต่งด้วยสีดำ กระทะล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205R16C เพิ่มความสะดวกในการขนของบรรทุก ตัวรถใหญ่โตตามตัวตั้งแต่
- ความยาว 5,220-5,260 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,775-1,785 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 205-215 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,821 กิโลกรัม (ลดลงจากเดิม 3 กิโลกรัม) กับ 1,843 (ลดลงจากเดิม 6 กิโลกรัม) กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
- มิติกระบะท้ายเริ่มที่ความยาว 1,755 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,490 มิลลิเมตร ความสูง 485 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
แน่นอนว่าใช้ชุดแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดจาก Nissan Terra ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาตรวัดเรืองแสง TFT 7 นิ้วในรุ่น E และมาตรวัดความเร็วกับรอบเครื่องยนต์คั่นกลางด้วยจอ MID แสดงข้อมูลการขับขี่และวัดระยะทางด้วยตัวเลขดิจิทัลในรุ่น SL จุดช่องชาร์จ USB มี USB-A 1 จุด และใหม่!! USB-C 1 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เบรกมือคันโยก เครื่องปรับอากาศพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ความเงียบเมื่ออยู่ในห้องโดยสารด้วยกระจกหน้าและข้างตอนหน้าเป็นแบบเก็บเสียงหรือ Acoustic glass
ทั้งรุ่น E และรุ่น SL เป็นเบาะผ้าสีดำเทา เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกลโดยฝั่งคนขับปรับระดับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทาง ในรุ่น E มาพร้อมออปชันเหนือกว่ารุ่น SL ทั้งกุญแจรีโมทอัจฉริยะพรัอมปุ่ม Push Start และกระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
ขุมพลัง Performance
จากเดิมเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.5 ลิตร รุ่น YD25DDTI 163 แรงม้า ที่ 3600 รอบต่อนาที แรงบิด 403 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที คราวนี้เพื่อรองรับมาตรฐานไอเสียหรือ EURO 5 ที่มีการปล่อยไอเสียต่ำแต่ยังคงให้การตอบนองทันใจ ประหยัดน้ำมันจึงเปลี่ยนเป็นขุมพลังใหม่ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.3 ลิตร รหัส YS23DDT ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาทีมาพร้อมฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อมลุยบรรทุกหนักได้อย่างน่าประทับใจด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่และเล็ก
ความปลอดภัย Safety
- ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System)
- กระจายแรงเบรก EBD (Electric Brake Force Distribution System)
- เสริมแรงเบรก BA (Brake Assist – BA)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- เข็มขัดนิรภัยแบบปรับระดับได้
- พวงมาลัยแบบยุบตัวได้
- ตัดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ในกรณีรถพลิกคว่ำเมื่อเกิดการชนด้านหน้า
- ล็อกความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ในรุ่น E
- ไฟหน้าแบบ Follow Me Home ในรุ่น E
Nissan Navara King Cab MY2024 ครบทุกความต้องการมาพร้อม 5 สีภายนอกดังนี้ สีดำ แบล็ค สตาร์, สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ และสีขาว ไวท์ โซลิด ในราคาใหม่ดังนี้
- รุ่น King Cab E 699,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- รุ่น King Cab SL 659,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)