พึ่งจะเปิดตัว BMW X1 เอสยูวีเจนที่ 3 ในรหัส U11 อย่างเป็นทางการในไทยกับค่าตัวที่ถูกใจสาวกบีมเมอร์เป็นจำนวนมากและล่าสุดกับการเพิ่มทางเลือก
แนะนำรุ่น BMW X1 xDrive30e M Sport เอสยูวีเล็กประกอบไทยผสานพลังแห่งการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับจุดเด่นของเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดได้เป็นอย่างดีพร้อมลดการปลดปล่อยมลพิษ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้นยังช่วยปลุกเร้าผู้ขับขี่ที่มองหาสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดดเด่นด้วยไฟหน้า Adaptive LED มาเป็นมาตรฐานพร้อมกับระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant) กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่เกือบเป็นสี่เหลี่ยม เส้นสายรูปตัว X ที่แผ่ออกไปด้านข้าง และแถบโครเมียมอันสะดุดตาที่ช่องรับอากาศด้านล่าง ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสีพร้อมยางขนาด 245/45 R19 ราวหลังคาแบบ Aluminium Satinated
ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและราวหลังคาดีไซน์ M สีดำเงา High-gloss Shadowline รูปลักษณ์แบบไดนามิกด้วยหลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างพับอัตโนมัติและตัดแสงอัตโนมัติฝั่งคนขับ ตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,500 มม. ความกว้าง 1,845 มม. ความสูง 1,630 มม. ฐานล้อ 2,692 มม. น้ำหนักรถ 1,935 กก.
ภายในกว้างขวางและหรูหราด้วยวัสดุพรีเมียมและอุปกรณ์ทันสมัยตกแต่งภายในด้วยแผงตกแต่งภายในด้วยอลูมิเนียมลาย Hexacube Pale M คอนโซลด้านบนแบบ Luxury ชุหลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร มอบบรรยากาศที่ประณีตหรูหรา เบาะนั่งตอนหน้าพร้อมระบบทำความร้อนดีไซน์สปอร์ตบุด้วยหนังเบาะที่นั่งแบบ Sensatec Perforated สีน้ำตาลเข้ม Mocha เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 ที่มีพื้นที่ด้านท้ายมากถึง 490-1,495 ลิตร และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบความบันเทิงทันสมัยไม่ว่าจะเป็น BMW ConnectedDrive เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ในชุดคอนโซลหน้าแบบ Hyperscreen จอแสดงผลแบบโค้งความชัดสูง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิตอล 10.25 นิ้ว และจอสัมผัส 10.7 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัวมารวมกัน พร้อม BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลอันทันสมัยสำหรับผู้ขับขี่ ผสมผสานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและสนุกสนานยิ่งขึ้น
ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง HiFi Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้นเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่แบบปุ่มบิดแทนคันเกียร์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ M 3 ก้าน และBMW Head-Up Display ยังช่วยให้ผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับท้องถนน พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ ในการขับขี่
ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 3 สูบ TwinPower Turbo 1.5 ลิตร B38A15M0 ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,700 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,400 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับ BMW eDrive เจนเนอเรชันที่ 5 ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุด 177 แรงม้า พร้อมแรงบิด 247 นิวตันเมตร และชุดแบตเตอรี่มีความจุ 16.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 326 แรงม้า แรงบิด 477 นิวตันเมตร
วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งไกลสุด 83 กม. ตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.6 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม.มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบ Steptronic พร้อมคลัตช์คู่และ Gearshift Paddles พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถในสภาพถนนต่างๆนอกจากนั้นยังมีระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus) และระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
อุปกรณ์มาตรฐานความปลอกภัยในรุ่นนี้ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยระบบต่าง ๆ ได้แก่ ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX นอกจากนั้น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) ระบบป้องกันเสียงสำหรับคนเดินถนนและเซ็นเซอร์ตรวจจับการชนยังได้รับการติดตั้งมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และคนเดินถนน
BMW X1 เจเนอเรชันใหม่รุ่น X1 xDrive30e M Sport มีมาให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White Solid สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเงิน Space Silver Metallic บุภายในด้วยหนัง Sensatec Perforated สีมอคค่า ในขณะที่ตัวถังภายนอกสีฟ้า Portimao Blue Metallic มาพร้อมกับหนัง Sensatec Perforated สีดำ ในราคาพร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard 2,799,000 บาท
