หลังจากเล่นมุกโชว์ดักคอด้วยการส่งภาพ Official กันไปก่อนสำหรับ Ford EDGE L เอสยูวีไซซ์ใหญ่ สำหรับตลาดเมืองจีน
เป็นการตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ล่าสุดเปิดตัวและประกาศราคาที่งาน Shanghai Auto Show 2023 เด่นด้วยการขยายฐานล้อยาวกว่ารุ่น EDGE เจนที่แล้ว 100 มม. หน้าตาสปอร์ตตั้งแต่กระจังหน้าทรงโค้งมนรูปตัวยูไส้ในสีเข้มลายเส้นแนวนอน ขนาบข้างกับไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED DRL ในโคมเดียวกัน กันชนหน้ารับกับชุดกระจังหน้าและมีช่องระบายอากาศที่ดูแนบเนียน
กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูซ่อนรูปกลมกลืนกับตัวถัง เสา C และ D ออกแบบชุดกระจกอย่างโค้งมน แถมมีหลังคาลาดลงช่วยให้ตัวรถสปอร์ตขึ้น ราวหลังคาทรงบิ๊วอิน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ล้ออัลลอยลายหรูขนาดใหญ่ 19 นิ้วพร้อมยาง 255/60R19 ขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/55R20 และขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 255/50 R21 ไฟท้าย LED ขนาดใหญ่ล้อมกรอบฝาท้าย ปักชื่อ EDGE และกันชนหลัง ตัวรถมีความยาว 5,000 มม. ความกว้าง 1,961 มม. ความสูง 1,773 มม. ฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในหรูด้วยเบาะนั่งสามแถว 7 ที่นั่ง แบบ 2/2/3 โดยเบาะนั่งแถวที่สองแบบ Captain Seat ปรับเอนได้ 3 โหมด แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ล้ำด้วยจอคู่แบบลอยตัว ที่รวมทั้งมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 27 นิ้ว ชัดแบบ 4K รวมเข้าไว้ด้วยกันพร้อมระบบความบันเทิง Ford’s SYNC infotainment สวิตช์เกียร์แบบกดปุ่ม ลำโพงคุณภาพ B&O 20 จุดจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า Head Up Display เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอุณหภูมิ 3 โซน และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังใหม่เบนซินปลั๊กอินไฮบริดเทอร์โบ E-hybrid 2.0 ลิตรให้กำลัง 275 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 405 นิวตันเมตรที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 190 แรงม้าที่ 4,170 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Low nickel ternary lithium battery ประหยัดสุด 15.85 กม./ลิตร วิ่งไกลสุด 1,188 กม./น้ำมัน 1 ถัง ตามมาตรฐาน WLTC คู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT
และถ้าไม่ชอบแบบติดถ่านยังมีเบนซินเทอร์โบล้วน EcoBoost 2.0 ลิตร 252 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 378 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทั้งสองความแรงเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
Ford EDGE L จำหน่ายโดย Changan-Ford โดยจำหน่ายทั้ง 7 รุ่นย่อยในราคา 229,800-309,800 yuan หรือราว 1,149,000- 1,545,000 บาท ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดเปิดตัวเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา Autohome
