อีกหนึ่งรุ่นจากค่าย MG ทีแท็คทีมกับ MG ZS สู้น้องบึ้งแดนปลาดิบที่กำลังไปได้สวยด้วยหน้าตา ออปชัน และราคาเร้าใจเกือบเก้าแสน กับ MG VS HEV
MG VS HEV มาพร้อมราคาใหม่ลดลงจากเดิม 100,000 และ 120,000 บาท โดยมีราคาใหม่ดังนี้
- รุ่น D ราคาพิเศษ 739,000 บาท (จากราคาเดิม 859,000 บาท)
- รุ่น X ราคาพิเศษ 819,000 บาท (จากราคาเดิม 919,000 บาท)
MG VS HEV นำพื้นฐานของ MG ZS ผสมกับความหล่อของ Roewe Totoro เข้ารวมกันจนลงตัวแต่ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design บ่งบอกความทันสมัยใส่เอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวีไว้ทุกอณูตั้งแต่ไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) ไปจนถึงไฟท้ายแบบ LED โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับ MG ZS EV ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อม AERO WHEEL COVER ที่จะช่วยลดแรงต้านลม เพิ่ม AERODYNAMIC ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมยาง 215/55 R17 ราวหลังคาเพิ่มความสปอร์ต และสีภายนอกแบบทูโทนหลังคาดำและมีสีโมโนโทนให้เลือก
ตัวรถมีความยาว 4,370 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,809 มิลลิเมตร ความสูง 1,653 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,585 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 145 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,450 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร
ภายในตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้มากกว่า หรูด้วยหน้าจอคู่ Dual Widescreen Cockpit HD ที่แบ่งเป็นหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel พร้อมลำโพง 6 จุด รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android ล้ำกว่าที่เคยด้วยดีไซน์คอนโซลแบบ Double Layer ในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ยกชุดมาจาก Roewe Totoro แบบ Double Layer เพิ่มอรรถประโยชน์การใช้งานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเต็มขั้น ไม่ว่าจะเป็น Wireless Charger และ ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C และ TYPE A ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start หลังคา Panoramic Sunroof พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ และ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลรวมถึงช่องปรับอากาศตอนหลัง
สปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวีคันนี้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงประสิทธิภาพขับสนุกและเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซินยกมาจาก MG ZS รหัส 15S4C 1.5 ลิตร ที่กำลังถูกลงไปอีก 5 แรงม้าเหลือ 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดลดลงไปอีก 8 นิวตันเมตรที่ 142 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้าที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT โหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ
ความปลอดภัยที่อุ่นใจได้ทุกการเดินทางกับกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ ทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 จุดครอบคัน ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System) ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)
MG VS HEV รุ่น D จะมีสีภายในเป็น สีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับรุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทน สีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White) โดยโปโมรชันดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ 11 ตุลาคม-11 ธันวาคมนี้
