ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยนอกจากจะมีแบรนด์ที่มาจากซีกโลกตะวันออกแล้วยังมีจากซีกโลกตะวันตกไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ยุโรปเข้ามาผสมกัน
แน่นอนว่าแบรนด์รถยนต์โซนอเมริกา ยุโรป ขึ้นชื่อในเรื่องความพรีเมียม ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีสั่งสมมานานเข้ากับยุคสมัยที่พลังงานทางเลือกแพร่หลายอย่างเช่นระบบไฟฟ้าล้วนความนิยมไม่แพ้กับรถยนต์ไฟฟ้าจากโซนเอเชีย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์พรีเมียมที่ทางเราจับมาเป็นคู่มวยเอกครั้งนี้ คันหนึ่งมาจากแดนมะกันและอีกคันจากแดนไวกิ้ง สวีเดนนั่นก็คือ TESLA Model Y กับ Volvo C40 Recharge Pure Electric โดยเลือกรุ่นท็อปสุดมาเปรียบเทียบกัน
Design & Exterior
TESLA Model Y Performance AWD เอสยูวีดีไซน์ทรงสปอร์ตหลังคาลาดระดับคอมแพ็คพรีเมียมเด่นตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบทั้งชิ้นในชุดกันชนหน้าพร้อมตรา TESLA ในส่วนของฝากระโปรงหน้า ประกบกับไฟหน้า Full LED พร้อมไฟตัดหมอกทรงเรียวยาว ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางหน้า 255/35R21 และยางหลัง 275/35R21
เส้นสายด้านข้างเรียบง่ายและหรูหรา หลังคาท้ายลาดในสไตล์รถ Fastback มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบเนียนกับตัวถังรถ ไฟท้าย LED และ สปอยเลอร์ดีไซน์หนึ่งเดียวกับฝาท้าย
Volvo C40 Recharge Pure Electric หล่อเท่ด้วยเส้นหลังคา Slimmed Crossover Roof Line ออกแบบมาให้รับกับทรงท้ายลาดต่ำตามแบบฉบับรถยนต์สไตล์คูเป้ไฟหน้า LED แบบ Active high beem ปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟตัดหมอดหน้า LED ประกบกับกระจังหน้าแบบฝาครอบปิดสีเดียวกับตัวถัง ประดับด้วยตราสัญลักษณ์ Volvo เรียบหรู มินิมอล
พร้อมส่องสัญญาณไฟ Welcome Light ต้อนรับเมื่อผู้ขับแตะที่มือจับประตูรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 235/50 R19 และยางหลัง 255/45R19 ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย C Shaped แบบ LED แนวยาว ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกได้อย่างลงตัว ช่องเสียบชาร์จจะอยู่ทางด้านซ้ายของเสา C ฝากระโปรงหน้าแปลงกายเป็นที่วางสัมภาระ 30 ลิตร
Dimension
TESLA Model Y Performance AWD พื้นฐานมาจาก TESLA Model 3 แต่ปรับตัวตนให้เป็นเอสยูวียกสูงโดยมีมิติตัวรถ ตั้งแต่ความยาว 4,750 มม. ความกว้าง 1,920 มม. ความสูง 1,623 มม. ระยะฐานล้อ 2,891 มม. แต่น้ำหนักรถ 1,997 กก.
Volvo C40 Recharge Pure Electric ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Compact Modular Architecture (CMA) พื้นฐานเดียวกับ Volvo XC40 Recharge Pure Electric ตั้งแต่ความยาว 4,440 มม. ความกว้าง 1,873 มม. ความสูง 1,596 มม. ระยะฐานล้อ 2,702 มม. น้ำหนักรถ 2,111 กก.
ถึงเอสยูวีไฟฟ้าสองยี่ห้อสองรุ่นจะมา 5 ประตู แต่เมื่อมาเทียบกันกับพบว่า TESLA Model Y Performance AWD ได้เปรียบทุกมิติยาวกว่า Volvo C40 Recharge Pure Electric เพียง 310 มม. กว้างกว่า C40 47 มม. สูงกว่า C40 27 มม. ฐานล้อยาวกว่า 189 มม. และน้ำหนักรถเบากว่า C40 114 มม.
Interior & Convenience
ภายใน TESLA Model Y Performance AWD คล้ายกับ TESLA Model 3 เรียบง่ายแต่หรูด้วยการใช้วัสดุลายไม้ตกแต่งทั้งในส่วนคอนโซลหน้า แผงประตูข้างมาพร้อมหน้าจอ โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15 นิ้ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของตัวรถทั้งคันไว้ในจอเดียวเป็นทั้งระบบความบันเทิง การนำทาง และเครื่องปรับอากาศ
รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ Over-the-air ผ่านทางดาวเทียมจะคอยอัปเกรดฟังก์ชันคุณสมบัติ การทำงานต่างๆ และประสิทธิภาพใหม่ตลอดเวลา พร้อมลำโพงคุณภาพ 14 จุด รวม ซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟายเออร์คู่ เพื่อไดนามิกของเสียงภายในที่เทียบได้กับสตูดิโอบันทึกเสียงแท่นชาร์จมือถือไร้สาย
พวงมาลัยสามก้านมาพร้อมปุ่มควบคุมแบบ Joy Stick 2 ปุ่ม หลังคาแก้วแบบพาโนรามิกที่กว้างช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะป้องกันรังสียูวี แป้นเหยียบแบบอะลูมิเนียมอัลลอยเพิ่มความลงตัว และพื้นที่เก็บสัมภาระ 2,158 ลิตร
Volvo C40 Recharge Pure Electric เน้นเรียบหรู ทันสมัยตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าในสไตล์ Topography Translucent Decor ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ใส่ลูกเล่นซ้อนวัสดุที่แตกต่างกันถึง 3 เลเยอร์ ให้มุมมองสามมิติบนผิวสัมผัสที่เรืองแสงเพิ่มความโดดเด่นให้ห้องโดยสาร
หลังคา Panoramic Glass Roof ให้มุมมองและความรู้สึกโล่งสบายในห้องโดยสารแต่ป้องกันความร้อนภายนอกได้สูงถึง 80% เพลิดเพลินกับระบบ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว Volvo with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปจากกูเกิ้ลอย่าง Google Maps, Google Assistant
เป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้ พร้อมลำโพงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Harman Kardon 13 จุด แอมปลิไฟเออร์ 600 วัตต์ รวมซับวูฟเฟอร์และ Air-Ventilated
Power & Transmission
TESLA Model Y Performance AWD มาในแบบขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ด้วยความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ NMC 75 kWh ให้กำลัง 534 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 582 กม. ตามมาตรฐาน NEDC การเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
การชาร์จมีสองแบบชาร์จแบบ DC กระแสตรง รองรับการชาร์จสูงสุด 250 kW ได้นานถึง 27 นาที ส่วนชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW 8.15 ชั่วโมง ทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed fixed gear
ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างอิสระสี่ล้อ ช่วงล่างหน้า Double Wishbone ด้านหลังแบบ Multi-link พร้อมคอยล์สปริง โช้กอัพ และเหล็กกันโคลง ทั้งหน้าและหลัง มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.05 ม.
ทางด้าน Volvo C40 Recharge Pure Electric ก็เป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบบ Dual Motor AWD ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 660 นิวตันเมตร โดยมีความจุ 78 kWh (ความจุแบตที่ใช้งานได้ 75 kWh) สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 ได้ในระยะเวลาเพียง 4.7 วินาที ให้ระยะทางการขับขี่ 530 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
รองรับการชาร์จกระแสตรงหรือชาร์จเร็ว DC ใช้เวลาการชาร์จจาก 0 – 80% เพียง 28 นาที สำหรับตู้ DC ที่มีกำลังไฟสูงสุด 150 kW และ 68 นาทีสำหรับตู้ DC ที่มีกำลังไฟสูงสุด 50 kW ส่วนการชาร์จกระแสสลับหรือชาร์จช้า AC 0-100% ชาร์จได้ 12 ชม. สำหรับตู้ชาร์จ Wallbox 1-Phase กำลังไฟสูงสุด 7.4 kW และ 8 ชม. สำหรับตู้ชาร์จ Wallbox 3-Phase กำลังไฟสูงสุด 11 kW พร้อม One Pedal Drive ที่ให้การเร่ง ชะลอ และเบรกรถยนต์ ทำได้ด้วยแป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว และเริ่มขับโดยไม่ต้องกดปุ่มสตาร์ท
ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 ม. ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut ช่วงล่างหลังแบบ Multi-Link
Safety & Feature
TESLA Model Y Performance AWD มาครบทั้ง ระบบช่วยขับอัตโนมัติ (Autopilot) ช่วยให้รถของคุณสามารถบังคับทิศทาง เร่งความเร็ว และเบรกได้โดยอัตโนมัติภายในช่องทางเดินรถ
ส่วน Autopilot แบบยกระดับ (EAP) เพิ่มอีก 122,000 บาท จะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมาให้ใช้งาน และปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานที่มีอยู่ เพื่อให้รถของคุณมีความสามารถมากขึ้นเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้ทั้งการนำทางแบบ Autopilot การเรียกรถอัตโนมัติแบบ Summon, จอดรถอัตโนมัติ, เปลี่ยนช่องจราจรโดยอัตโนมัติ
ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD หรือ Full Self-Driving) เพิ่มอีก 244,000 บาท ประกอบด้วยฟังก์ชันรวมการทำงานของฟังก์ชันทั้งหมดของ Autopilot แบบพื้นฐาน และ Autopilot แบบยกระดับ (EAP), ควบคุมตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด, ความคุมพวงมาลัยอัตโนมัติบนถนนในเมือง
ส่วน Volvo C40 Recharge Pure Electric มาพร้อมระบบ Advanced Driver Assist System (ADAS) ให้กล้องและเซนเซอร์รอบตัวรถตรวจจับวัตถุได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และฟังก์ชันเพื่อช่วยในการขับขี่อื่น ๆ อาทิ Driver Assist with Pilot Assist ช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control
ควบคุมความเร็วแปรผันเพื่อรักษาระยะห่าง Collision Avoidance เลี่ยงการชนและหยุดรถอัตโนมัติ Cross Traffic Alert with Auto Brake แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด พร้อมฟังก์ชันหยุดรถอัตโนมัติ Lane Keeping Aid แจ้งเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ
Price & Color
TESLA Model Y Performance AWD มาพร้อมตัวเลือก 5 โทนสี ได้แก่ สีดำ Solid Black *สีขาวมุก Pearl White Multi-Coat *สีเทา Midnight Silver Metallic *สีน้ำเงิน Deep Blue Metallic และสีแดง Red Multi-Coat เพิ่ม 80,000 บาท (เพิ่ม 50,000 บาท *) มาในราคา 2,509,000 บาท
Volvo C40 Recharge Pure Electric มาพร้อมตัวเลือก 7 โทนสี ได้แก่ Fusion Red Metallic, Sage Green Metallic, Onyx Black Metallic, Thunder Grey Metallic, Silver Dawn Metallic, Crystal White Pearl และ สีใหม่ล่าสุด Fjord Blue Metallic มาในราคา 2,790,000 บาท
Verdict
ถ้าพูดถึงตามตลาดโลก TESLA Model Y เปิดตัวก่อน Volvo C40 Recharge Pure Electric มาสามปี รูปร่างหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สไตล์หรูหราสะอาดสะอ้าน
ส่วนไทยมาก่อนก็จริงผ่านตัวแทนผู้นำเข้าอิสระจนมีประชากรแล้วแต่การมาของบริษัทแม่เมื่อปีกลายกับการตั้งราคาจำหน่ายที่นำเข้าจากจีนได้รับสิทธิ์ FTA 0% ค่าตัวเลยถูกแสนถูกเรียกว่าคนซื้อไปก่อนหน้านั้นเคืองกันเลยทีเดียว
ส่วน Volvo C40 Recharge Pure Electric เปิดตัวในไทยช่วงต้นปีที่แล้วก็นำเข้าจากจีนเช่นกันกับ TESLA Model Y Performance AWD แต่ค่าตัวแพงกว่า TESLA ถึง 281,000 บาท ขุมพลังแรงม้า ความจัดจ้าน ความเร็วสูงสุดทาง TESLA กลับได้เปรียบ Volvo อย่างเห็นๆแถมตัวรถ TESLA ใหญ่กว่าทุกมิติถึงจะมาก่อนกาลก็ตาม
การส่งมอบทาง Volvo ทยอยส่งมอบไปเรื่อยๆตามจำนวนการจอง แต่ TESLA หลังจากเปิดรับจองตั้งแต่ 7 ธันวาคม 2022 และเริ่มส่งมอบตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2023 เป็นต้นไป งานนี้รักใครชอบใคร สัมผัสและทดลองขับเพื่อประกอบการตัดสินใจกันได้เต็มที่กับว่าที่รถยนต์คู่ใจคันใหม่ของคุณ
