More

    MG4 XPower อีวีสายดาร์ก 435 ม้า ขายออสเตรเลีย 1.409 ล้านบาท

    หลังเปิดตัวที่อังกฤษพร้อมเปิดราคาขายแล้วสำหรับ MG4 XPower หรือ MG4 Electric XPower อีวีสายโหดขับเคลื่อนสี่ล้อที่ยอดขายดีวันดีคืน

    MG

    ล่าสุด ออสเตรเลีย ก็ได้จำหน่ายเสียทีแตกต่างจากเวอร์ชันปกติคือชุดแต่งรอบคันตั้งแต่หลังคาดำกับตัวรถสีเขียว Racing Green ล้ออัลลอยเข้มสีดำทูโทนปัดเงาห้าก้านขนาด 18 นิ้วหุ้มยางแก้มเตี้ยขนาด 235/45R18 ของค่าย Bridgestone รุ่น Turanza T005 EV พร้อมคาลิปเปอร์เบรก “XPOWER” สีส้ม นอกนั้นคงเดิมทั้งไฟหน้า LED ดีไซน์หกเหลี่ยม พร้อมไฟ DRL แบบ LED กับกระจังหน้าดีไซน์ ‘shark-nosed’ เส้นแนวตั้ง 2 เส้น Fins รวมอยู่ในชุดกันชนหน้า คิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำตัดกับลวดลายสีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูน ไฟท้าย LED แนวตั้งพาดยาวครอบทั้งฝาท้ายพร้อมสปอยเลอร์หลังและกันชนหลังทรงสปอร์ต

    จากพื้นฐานแพลตฟอร์ม Modular Scalable Platform (MSP) ของ SAIC Motor ทำให้ตัวรถดูมีมิติและสมส่วนขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,287 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,836 มิลลิเมตร ความสูง 1,516 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,800 กิโลกรัมMG

    ภายในสปอร์ตกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านแบบท้ายตัด D-Shape จอสัมผัสแบบแท็บเล็ตขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เชื่อมต่อระบบข้อมูลรถ i-Smart ได้บวกกับลำโพง 6 จุด มาตรวัดดิจิตอล 7 นิ้ว เบาะนั่งทรงสปอร์ตสีดำหุ้มหนัง Alcantara สีดำ ปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 6 ทิศทางและปรับธรรมดา 4 ทิศทาง คอนโซลเกียร์แบบปุ่มบิด เย็นสบายด้วยระบบปรับอากาศดิจิตอล ที่วางชาร์จมือถือไร้สายที่วางแก้ว และพื้นที่ด้านหลังสำหรับวางสัมภาระที่จุมากขึ้นแบบ 60/40 เมื่อพับแล้วมีพื้นที่มากขึ้นถึง 1,165 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 363 ลิตร และชุดแป้นคันเร่งและเบรกสีเงิน

    MG

    ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่แรงขึ้น 435 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ 64 kWh ความจุแบตเตอรี่ที่ใช้งานจริง 61.8 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหน้าให้กำลัง 204 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลังให้กำลัง 231 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จสองรูปแบบทั้งชาร์จข้า AC Type 2 กำลังไฟสูงสุด 7 kW จาก 10-100% ทำได้ 5.1 ชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC CCS2 สองรูปแบบตั้งแต่กำลังไฟสูงสุด 50 kW จาก 10-80% ทำได้ 52 นาทีและกำลังไฟสูงสุด 150 kW จาก 10-80% ทำได้ 35 นาที วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 385 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w

    MG

    อัปเกรดเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้กระจายกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่ในขณะเข้าโค้ง ซึ่งมีการติดตั้งระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบไดนามิกใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรกใน MG ที่มีการล็อคเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์และการควบคุมมอเตอร์อัจฉริยะเพื่อให้สามารถส่งแรงบิดระหว่างล้อทั้งสี่ได้ ระบบนี้ได้รับการกล่าวขานว่าสร้าง “การยึดเกาะสูงสุดและความสงบที่ยอดเยี่ยม” ในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วงล่างอิสระสี่ล้อพัฒนาใหม่ ปรับเทียบสปริงและแดมเปอร์ใหม่ เหล็กกันโคลงที่แข็งขึ้น และการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมขึ้น ส่งผลให้ระบบกันสะเทือนโดยรวมแข็งขึ้น 25% ทีมวิศวกรยังได้ปรับเทียบซอฟต์แวร์การเบรกแบบใหม่เพื่อให้ใช้แป้นเหยียบเดียวในสถานการณ์ที่เหมาะสมพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่มีจานระบายอากาศขนาด 345 มิลลิเมตรทั้งสี่ล้อ

    ความปลอดภัย MG Pilot มาครบทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) (ผสานรวมระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDP (Lane Departure Prevention) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

    ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมป้องกันคนบนนถนนและคนปั่นจักรยาน  AEB (Active Emergency Braking with Pedestrian and Bicycle Detection) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) จำกัดความเร็วอัตโนมัติพร้อมอ่านป้ายจราจร Intelligent Speed Limit Assist with traffic sign recognition ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning) ช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

    จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)

    ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME), ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ,ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control), ป้องกันล้อหมุนฟรีกับควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System), ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist), สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)

    MG

    MG4 XPower หรือ MG4 Electric XPower เป็นคู่กัดอีวีนานาชาติทั้ง Cupra Born Volvo EX30 Tesla Model 3 และ Polestar 2 เปิดขายแล้วที่ออสเตรเลียเริ่ม $59,990 หรือราว 1,409,000 บาท โดยราคาดังกล่าวรวมค่าใช้จ่ายบนท้องถนนของออสเตรเลียหรือ on-road costs

    ที่มา Carsales

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts