อีกหนึ่งเวอร์ชันของ Mitsubishi Triton ได้รับการตอบรับอย่างดีนั่นก็คือรุ่นแค็ปตอนครึ่งเวอร์ชันยกสูงในชื่อ Mitsubishi Triton Mega Cab
Mitsubishi Triton Mega Cab Plus กระบะแค็ปตอนครึ่งเจเนอเรชันที่ 6 มาพร้อมหน้าตาแกร่งในคอนเซ็ปต์ BEAST MODE เริ่มที่ด้านหน้าด้วยกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบ ด้านหน้ามาในสไตล์ Dynamic Shield ด้วยคิ้วโครเมียมประกบชุดกระจังหน้าเข้มสีดำพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi บนขอบกระจังหน้าชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจสีเดียวกับตัวรถชุดไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าและชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจ เส้นสายบึกบึนออกแบบช่องไฟระหว่างด้านหลังตัวรถและแนวกระบะเป็นแนวทางเดียวกันงานนี้ไม่โค้งเหมือนแต่ก่อนแล้วกระจกหลังยังโค้งเช่นเดิมแถมมีคิ้วขอบล้อเพิ่มมาเติมความกลมกลืนกับตัวรถด้านท้ายมีสปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED รูปตัว H พร้อมชุดแต่งโครเมียมทั้งคันตั้งแต่กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตู และที่เปิดฝากระบะท้าย ตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลังระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้นลง ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 265/70 R16 กับขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17 และใหญ่สุด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแค็ปเปิดได้สองฝั่งแบบตู้กับข้าวพร้อมคอนโซลหน้าภายใต้แนวคิด Horizontal Axis คำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดใช้วัสดุคุณภาพสูงพร้อมตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงการปกป้องเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยเติมเต็มความใส่ใจในทุกการออกแบบอย่างประณีตสวิตช์ควบคุมต่างๆ ล้วนได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Mitsubishi Touch เน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือพร้อมออปชันประจำรถได้แก่
ชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID 7 นิ้ว และมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 3.5 นิ้ว แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดามีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด ตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพโดยในทุกพื้นที่ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้าช่องวางสมาร์ทโฟนและช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือ แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอ กับขนาด 10 นิ้ว รองรับ FM/AM/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพงติดรถ 4 กับ 6 จุด เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า และ 6 ทิศทางปรับด้วยมือ
วัสดุหุ้มเบาะมแบบผ้ากำมะหยี่สีดำและหุ้มกึ่งหนังแท้สีดำเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติและแบบหมุนธรรมดา Full Mode Control มือจับหลังคา มีตั้งแต่ 3 ตำแหน่ง / 7 ตำแหน่ง และ 8 ตำแหน่ง พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง
ขุมพลังที่ทำตลาดเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันคลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นขนาด 2.4 ลิตร 4N16 Mid Power ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์เพิ่มความสะดวกสบาย
มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบบังคับเลี้ยวทุกรุ่นจะเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมความปลอดภัยดังนี้
เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM) สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB) พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบเบรกกันล้อล็อกตาย ABS กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS) เสริมแรงเบรก (BA) ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัย 3 จุด (คู่หน้าและหัวเข่าใต้คนขับ) เซ็นเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง กล้องมองภาพที่เลือกได้ทั้งแบบด้านหลังและรอบคัน
Mitsubishi Triton Mega Cab PLUS เจเนอเรชันที่ 6 มีสีภายนอกดังนี้ สีบรอนซ์เงิน Blade Silver Metallic, สีขาวมุก White Diamond สีเทา Graphite Gray Metallic และสีดำ Jet Black Mica มีทั้งเกรด PRO, Prime, Ultra ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ พร้อมโชว์ตัวและประกาศราคาที่งาน Motor Expo 2023 สิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้