หลังขายที่สหรัฐช่วงปลายปี 2021 สำหรับ Toyota Tundra กระบะไซซ์ยักษ์เจเนอเรชันที่สามและเตรียมขายตลาดไปยังออสเตรเลียด้วยเวอร์ชันพวงมาลัยขวา
ล่าสุด Toyota ออสเตรเลียนำเข้า Toyota Tundra มาจากโรงงานรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา แต่ถูกทางโรงงานประกอบ Clayton South ชานเมืองในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ดักไว้ด้วยการดัดแปลงรถจากพวงมาลัยซ้ายกลายเป็นพวงมาลัยขวาและตรวจสอบอุปกรณ์ดัดแปลงที่เกี่ยวเนื่อง ตามมาตรฐานการออกแบบและข้อบังคับความปลอดภัยของออสเตรเลียก่อนส่งขาย
หน้าตาเดียวกันกับเวอร์ชันพวงมาลัยซ้ายตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์เท่ขอบกระจังหน้าใหญ่แบบโครเมียมติดโลโก้ 3 ห่วงขนาดใหญ่ลากยาวมาถึงชุดกันชนหน้าขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED ทรงตัว T กันชนหน้าสีทูโทนเข้มทุกองศา กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ชุดโครเมียมนอกจากชุดกระจังหน้ายังติดตั้งความหรูเพิ่มที่ตำแหน่งกรอบกระจก ที่เปิดประตู บันไดข้างสีดำ ไฟท้าย LED แนวตั้ง กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถผสมโครเมียมเด่นในด้านความบึกบึน และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R20
ตัวรถใหญ่มากในร่างสี่ประตูตั้งแต่ความยาว 5,955 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,040 มิลลิเมตร ความสูง 1,985 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,700 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 216 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 3,536 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 122 ลิตร
ภายในหรูกับจอสัมผัสใหญ่สุด 14 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple Car Play/ Android Auto มาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอแสดงข้อมูล MID 4.1 นิ้ว ลำโพง JBL 12 จุดรอบคัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสี่ก้าน หลังคากระจก Panoramic Moonroof ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ความสบายแบบ 5 ที่นั่งด้วยเบาะนั่งคนขับปรับฟ้า 8 ทิศทางและเบาะหลังพับได้ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการวางของ
ขุมพลังประจำการมาจากเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด i-Force Max ยกชุดมาจาก Toyota Land Cruiser 300 ด้วยพลังเทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร V6 รหัส V35A-FTS ให้กำลัง 394 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,400-3,600 รอบต่อนาที พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor ให้กำลัง 49 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรและชุดแบตเตอรี่ Nickel Metal Hydride ขนาด 6.5 Ahr และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 443 แรงม้า แรงบิด 790 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT รุ่น L4A0F
โหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal และ Sport ขับเคลื่อนสี่ล้อ Dual-range 4WD พร้อมกำลังลากจูงมากสุด 4,500 กิโลกรัม แกร่งด้วยช่วงล่างรองรับการบรรทุกด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ พร้อมดิสก์เบรกสี่ล้อแบบคาลิเปอร์ 4 พอตพร้อมจานเบรกขนาดใหญ่ด้านหน้า 354 มิลลิเมตร และจานเบรกหลังขนาดใหญ่ 335 มิลลิเมตรและคาลิเปอร์ 1 พอต
ลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 23 องศา มุมจาก Departure Angle 21 องศา พร้อมความปลอดภัยขั้นเทพ Toyota Safety Sense มาครบทั้งระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน และตรวจจับทั้งคนเดินถนนกับจักรยาน Pre-collision system with day and night pedestrian and daytime cyclist detection ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active cruise control เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane departure alert with steering assist
แจ้งเตือนเมื่อรถมีการเบี่ยงออกนอกเลน Lane trace assist ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic high beam ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind spot monitor เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear cross traffic alert กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic view monitor สัญญาณกะระยะการจอดหน้า-หลัง ฝั่งละ 4 จุด parking sensors เบรก ABS ควบคุมการทรงตัว VSC ป้องกันการลื่นไถล TRC ถุงลมนิรภัย 8 จุด สำหรับกระบะยักษ์ค่ายสามห่วงเตรียมขายออสเตรเลียต้นปี 2024 ในราคารวมค่า on-road costs $145,990 หรือราว 3,389,000 บาท
ที่มา Carsales