เจ้าม้าป่าพันธุ์ดุอย่าง Ford Mustang ทะยานสู่ตำแหน่งรถขายดีอันดับ 1 ของอเมริกากลายเป็นมัสเซิลคาร์ที่ทั่วโลกชื่นชอบมายาวนานถึง 6 ทศวรรษ
ในโอกาสพิเศษและเอาใจสาวกเปิดตัว Ford Mustang 60th Anniversary ตกแต่งแบบเดียวกับรุ่นปี 1965 มาพร้อมโลโก้พิเศษ สีแดง เวอร์มิลเลียน เร้ด และสีดำ อีโบนี่ แบล็ค ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโลโก้ที่กระจังหน้า มาติดตั้งในบังโคลนหน้าซ้าย-ขวา รูปตัวอักษร 5.0 และด้านท้ายรูปตัวอักษร GT 60 YEARS สติ๊กเกอร์ลายพิเศษคาดยาวใต้แผงประตู
ฝาครอบดุมล้อของมัสแตงในชุดล้ออัลลอยดีไซน์คลาสสิกห้าก้านจากรุ่นปี 1965 ปรับดีไซน์ให้เข้ากับยุคขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/35 R20 กระจกมองข้างสีเงิน รวมถึงกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมตกแต่งขอบกระจังหน้าสีเงินสว่าง ไส้ในกระจังหน้าแบบตาข่าย พร้อมตราโลโก้ม้าป่าผยอง กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ไฟหน้ารมดำ Tri-Bar LED 2 แถบ ด้านท้ายมาแบบไฟท้าย LED 3 แถบดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ลู่ลมกว่าเดิม ผสมความเป็นดั้งเดิมปรับตามยุคสมัย พร้อมช่องใส่ทะเบียนท้ายแบบยาว
ภายในตกแต่งเล็กน้อยกับ ตรา 60 ปี ในชุดแผงคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร ยกความทันสมัยตามสไตล์ Ford ด้วยชุดมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว แสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโหมดขับขี่ รวมถึงจอสัมผัสขนาดใหญ่ 13.2 นิ้วที่งานนี้ออกแบบให้อยู่ตำแหน่งเดียวกับชุดมาตรวัด พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 4 เวอร์ชันใหม่ รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto™ พร้อมลำโพงจาก B&O Bang & Olufsen 12 จุด รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงใหม่ท้ายตัด คันเกียร์ดีไซน์เอกลักษณ์เช่นเคย เบรกมือยังเป็นคันโยก บริเวณคอนโซลกลางยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
มีช่องเสียบ USB อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งออกแบบมาให้ใช้กับกล้องวิดีโอติดรถยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ ได้สะดวก โดยสายไฟไม่เกะกะในห้องโดยสาร การตกแต่งด้วยวัสดุผ้า และเบาะนั่งที่หุ้มด้วยผ้าทั้งหมดในรุ่นเริ่มต้น พร้อมเบาะนั่งหนังไวนิล หนังกลับจาก RECARO และมีเข็มขัดนิรภัยสีดำ รุ่นสูงสุดหุ้มและตกแต่งตัดขอบทั้งแผงหน้าปัดและบานประตูด้านใน
สามารถสั่งการรถผ่านแอปพลิเคชัน FordPass ได้หลากหลายจากระยะไกลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ การล็อกและปลดล็อกประตู ตั้งเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบุตำแหน่งของรถ และตรวจดูสภาพและสถานะของรถ นอกจากนี้ FordPass ยังบอกข้อมูลสำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับรถ เช่น ระดับน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการเข้ารับบริการ และข้อมูลการรับประกัน และล่าสุดเพิ่มออปชันมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว ดีไซน์คลาสสิก Retro Gauge Package จะติดตั้งในรุ่นปี 2024
เครื่องยนต์เบนซิน 5.0 ลิตร V8 Coyote ปรับปรุงระบบไหลเวียนอากาศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงะบบหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) ผสานระบบ High-Pressure Direct Injection และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection) ได้แรงม้าสูงสุด 472 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 4,850 รอบต่อนาที
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 SelectShift รุ่นเดียวกันที่ใช้ในกระบะ Ford Ranger และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด Getrag และ Tremec TR-3160 มาด้วย ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมระบบ Remote Rev แม้อยู่นอกตัวรถก็เปิดเสียงคำรามของเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วด้วยการสั่งงานผ่านกุญแจ
โหมดการขับขี่ 6 โหมดทั้ง โหมดปกติ โหมดสปอร์ต Sport โหมดถนนลื่น Snow/Wet โหมดแข่งทางตรง (แดรก) Drag Strip โหมดแทร็ก Track และโหมดสุดท้ายที่บันทึกการตั้งค่าส่วนตัวได้ My Mode จากความสามารถในการปรับแต่งรูปแบบส่วนตัวได้ถึง 6 สไตล์ ครั้งแรกในเซ็กเมนต์ด้วย ‘ดริฟท์เบรกแบบไฟฟ้า’ Electronic Drift Brake ปลดล็อกความสามารถในการดริฟท์ของรถขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมกับพวงมาลัยพาวเวอร์ปรับน้ำหนัก 3 โหมดทั้งโหมด Normal, Comfort และ Sport
Ford Mustang 60th Anniversary มีทั้งแบบคูเป้และเปิดประทุน จำนวนจำกัดเพียง 1,965 คัน ขายและประกาศราคาที่อเมริกาช่วงปลายปีนี้ (ตั้งแต่กันยายนเป็นต้นไป) และจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศด้วยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Motor 1