เกือบสองปีแล้วที่ BMW iX เอสยูวีไฟฟ้าล้วนไซซ์ใกล้เคียงกับ BMW X5 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากสาวกบีมเมอร์ชาวไทย
นอกจากจะขายรุ่นท็อปสุด iX xDrive50 Sport ในราคา 6,299,000 บาท ในส่วนรุ่นเริ่มต้นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหลังหมดรุ่นเดิม iX xDrive40 ไปแนะนำรุ่นเริ่มต้นใหม่ iX xDrive40 Sport แทนรุ่นเดิม ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมชุดแต่ง Sport ด้วยวัสดุสีดำเงาไม่ว่าจะเป็นดีไซน์กันชนหน้า-หลังมุมส่วนล่างใหม่ คิ้วกรอบกระจกส่วนล่าง ที่เปิดประตูแบบกดปุ่ม
กระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ กล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบ BMW Laserlight และไฟท้าย LED ที่เรียวยาวที่สุดสีรมดำ ประตูท้ายสอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่าง หลังคากระจก Panorama Sky Lounge ล้อ aerodynamic แบบสลับสี 3D ขัดเงา 22 นิ้ว 9.5 J × 22 พร้อมยาง 275/40 R22 เป็นยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียง หน้าต่างไร้ขอบ และฝากระโปรงท้ายบานใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณท้ายรถทั้งหมด
ภายในนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เบาะที่นั่งแบบใหม่ที่มาพร้อมกับพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์หรู สวิตซ์ปรับเบาะนั่งคู่หน้า ปุ่มควบคุม iDrive และสวิตซ์เปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch ตกแต่งด้วยคริสตัล เน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant โดยจอโค้งนี้เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว
รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ แสดงผลและระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชนใหม่ ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant
พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display หลังคาภายในสีดำ Anthracite มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Harman Kardon Surround Sound System ขนาด 655 วัตต์ พร้อมลำโพง 18 ตัว ที่สร้างประสบการณ์รับฟังที่ดีที่สุดพร้อมลำโพงฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชันสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า
BMW iX xDrive40 Sport มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชันที่ห้า ด้วยความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 76.6 kWh ให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร ทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 425 กม. แต่ถ้าในโหมดมาตรฐาน NEDC ไกลสุด 420 กม.
ให้อัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. จับคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive แบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้น อัตราการสิ้นเปลืองนั้นทำได้ 4.44 กม./kWh ตามมาตรฐาน NEDC และ 5.18 กม./kWh ตามมาตรฐาน WLTP
การชาร์จโดยชาร์จเร็ว DC รองรับกำลังไฟสูงสุด 150 kW จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 34 นาที และการชาร์จช้า AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 22 kW จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 3.45 ชั่วโมง เทคโนโลยีแชสซีประกอบด้วยเพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ พวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็ว
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นวัตกรรมหลากหลายพร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคันและความปลอดภัยมีครบไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่อัตโนมัติ (ASC) ควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)
ควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor) Active Protection ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go เสริมการทำงานด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D View พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และระบบสั่งงานอัจฉริยะ BMW Natural Interaction
BMW iX xDrive40 Sport มีสีตัวถัง 5 สีได้แก่ สีแดง Aventurin Red, สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีเทา Storm Bay, สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีฟ้า Blue Ridge Mountain ในราคาจำหน่าย: 5,299,000 บาท (รวมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard) เพิ่มจากเดิม 300,000 บาท