เก๋งยอดนิยมอย่าง Toyota Corolla หรือ Toyota Corolla Altis เริ่มมีความเคลื่อนไหวกันอีกครั้งหลังจากที่บางประเทศเช่นไต้หวันเปิดตัวรุ่น MY2023ไป
ล่าสุดที่อเมริกาเปิดตัวรุ่นพิเศษภายใต้ชื่อ Toyota Corolla Nightshade โดยนำรุ่นย่อย SE แต่งเข้มเสริมหล่อชนิดจำตัวตนเดิมๆแทบไม่ได้ด้วยล้ออัลลอย 7 ก้านคู่รมดำสีบรอนซ์ทองขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/40 R18 ส่วนด้านหน้าแต่งเข้มด้วยกระจังหน้าสีดำเงาติดตราโลโก้สามห่วงแบบรมดำบนฝากระโปรงรถในชุดกันชนหน้าทรงเข้มด้วยช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งขนาดใหญ่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูนสีดำ เสาอากาศครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลัง กันชนหลังตกแต่งพิเศษด้วยลิ้นสปอยเลอร์หลัง ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็กเพิ่มคิ้วโครเมียมที่ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าพร้อมหลังคาสีดำกับออปชันเดิมทั้งไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน
ภายในเพิ่มสีสันด้วยเบาะนั่งวัสดุผ้ากำมะหยี่ทรงสปอร์ต หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto สตรีมเพลงจากแอป Amazon Music และ Apple Music พร้อมมาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID 4.2 นิ้ว และยังมีออปชันเสริมเพิ่มเงินด้วยลำโพงคุณภาพจากค่าย JBL ลำโพง 9 จุด ส่วนออปชันเพิ่มเติมในรุ่น SE Premium Package มีทั้งที่ชาร์จมือถือไร้สาย หลังคาซันรูฟ ระบบเตือนมุมอับสายตา blind spot monitoring และเตือนการถอยหลังเมื่อมีรถสวนมา rear cross-traffic alert
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งแบบ Hybrid ขุมพลังเดิมเบนซิน 1.8 ลิตร 2ZR-FXE 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ภาคเครื่องยนต์ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ล้อหน้ารุ่น 1VM 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four รุ่น 1WM 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร ได้แรงม้ารวม 141 แรงม้าแรงบิด 171 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมดทั้ง “Eco”, “Normal”, “Sports”, Comfort” และ “Sports S + เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four
และเบนซิน Dynamic Force M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม Paddle Shift และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 และช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบมัลติลิงก์จากพื้นฐาน TNGA-C
เบื่องต้น Toyota Corolla Nightshade รุ่นพิเศษทั้งแบบเก๋งซีดาน เบนซิน และ Hybrid กับแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เบนซิน ปลายปีนี้ที่สหรัฐอเมริกา โดยมีสีภายนอกทั้ง 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black Metallic, สีบรอนซ์เงิน Classic Silver Metallic และสีขาว Ice Cap ในรุ่นซีดาน
ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็กมี 3 สีทั้งสีขาวมุกทูโทนหลังคาดำมิดไนท์แบล็กเมทัลลิก Wind Chill Pearl/Midnight Black Metallic และสีบรอนซ์เงินหลังคาดำมิดไนท์แบล็กเมทัลลิก Classic Silver Metallic/Midnight Black Metallic และสีดำ Midnight Black Metallic Solid โดยจะประกาศราคาพร้อมรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2024 ในช่วงปลายปีนี้ที่สหรัฐอเมริกา
ที่มา Motor 1