Nissan Motor และ Honda Motor ของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาลดการผลิตรถยนต์ในจีน เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นความนิยมมากขึ้น จากรายงานของ Nikkei
รายงานข่าวออกมาว่า นิสสันอาจลดการจำนวนการผลิตต่อปีในตลาดรถยนต์ในจีนลง ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกราวๆ 30% หรือประมาณ 500,000 คัน ในขณะที่ฮอนด้ากำลังพิจารณาที่จะลดการผลิตลง 20% เหลือจำนวนการผลิตประมาณ 1.2 ล้านคันต่อปี
แต่ทางด้านโฆษกของนิสสันกล่าวว่า เนื้อหาของรายงานไม่เป็นความจริง และต้องไปหารายละเอียดเพิ่มเติม ด้านโฆษกฮอนด้า ระบุว่า ไม่ได้ตัดสินใจลดการผลิตเหลือประมาณ 1.2 ล้านคันในจีน และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
นิสสันกำลังจัดฐานการผลิตใหม่ร่วมกับพันธมิตรชาวจีน โดยนิสสันมีโรงงาน 8 แห่งในประเทศผ่านการร่วมทุน กับตงเฟิง มอเตอร์ และพยายามใช้กำลังการผลิตส่วนเกิน เพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ข้อมูลของบริษัทเผยยอดขายของนิสสันลดลง 16.1% ในจีนเมื่อปีที่แล้ว เหลืออยู่ไม่ถึง 800,000 คัน
ข้อมูลของบริษัทฮอนด้ามียอดการผลิตลดลงประมาณ 10% ในจีน เหลืออยู่ที่ 1.2 ล้านคัน โดยฮอนด้าบริหารโรงงาน 4 แห่งในจีนผ่านการร่วมทุนกับ GAC Group ซึ่งมีรากฐานมาจากช่วงปลายทศวรรษ 1990 และโรงงานอีก 3 แห่งผ่านการร่วมทุนอีกแห่งหนึ่งกับ Dongfeng ที่ก่อตั้งในปี 2004
ทางด้าน GAC ตอบข้อสักถามกับรอยเตอร์ว่า ไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ด้านตงเฟิงก็ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในประเด็นนี้เช่นกัน
ซึ่งการที่แบรนด์รถยนต์ในประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์รถยนต์ต่างประเทศ สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีน
เพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความกดดันที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในประเทศจีน ล่าสุดทางบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ตัดสินใจเมื่อปีที่แล้วว่าจะยุติการผลิตรถยนต์กับบริษัทร่วมทุนในประเทศนี้
Source: reuters
