Maserati เผยโฉมยนตรกรรมรุ่นพิเศษ MC20 Icona และ MC20 Leggenda เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ของการคืนสู่สังเวียนแข่งรถระดับโลกของค่ายตรีศูลเมื่อปี 2003 หลังจากห่างหายไปนานถึง 37 ปี สมทบด้วย MC12 ยนตรกรรมระดับตำนาน ร่วมเฉลิมฉลอง
MC12 เปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชั่นรถถนนปกติ ก่อนสร้างตำนานบนสนามแข่ง GT Championship อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตยนตรกรรมซูเปอร์สปอร์ต ‘MC20’ ที่ได้รับการผลิตขึ้นในอิตาลี 100% และเป็นเสมือนตัวแทนแห่งการเริ่มต้นของ Maserati ยุคใหม่ จากการเป็นรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เน็ททูโน V6
MC20 รุ่นพิเศษ จำกัดเพียง 20 คันต่อรุ่น มาพร้อมสีตัวถังและรายละเอียดต่างๆ ที่ดูคล้ายคลึงกับ MC12 Stradale และ MC12 GT1 Vitaphone
สีสันของ MC20 Icona ชวนให้รำลึกถึงหนึ่งในสุดยอดระดับตำนาน MC12 Stradale ที่เปิดตัวช่วงปี 2003 รวมถึง Maserati Trofeo Light ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Maserati Birdcage Type 61 ที่ผลิตช่วงปี 1959 – 1961
Maserati MC20 Icona ได้รับการตกแต่งพิเศษ ภายใต้โปรแกรม Fuoriserie Personalization Program ตัวถังสีขาว Bianco Audace Matte ตัดกับฟ้า Blu Stradale ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ติดตั้งสัญลักษณ์ตรีศูล บริเวณตัวถังด้านล่างใกล้กับล้อหลัง พร้อมประดับด้วยธงชาติอิตาลีบริเวณประตู
ล้ออัลลอยลายตรีศูลผ่านการชุบโครเมียม มาพร้อมฝาครอบดุมล้อสีเงิน ตัดกับโลโก้ตรีศูลสีน้ำเงิน ส่วนคาลิเปอร์เบรกพ่นสีน้ำเงินเช่นกัน กระจกมองข้างมีระบบตัดแสงอัตโนมัติ ปิดท้ายด้วยฝาครอบเครื่องยนต์ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์
ขณะที่ MC20 Leggenda มากับตัวถังสีดำ Nero Essenza ตัดกับฝาประโปรงหน้าและหลังคาสีเขียว Mint Matte ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานอันยิ่งใหญ่ คือ MC12 GT1 ตัวแข่งของทีม Vitaphone Racing เจ้าของแชมป์ 3 สมัย ในรายการ 24 Hours of Spa และรองอันดับ 2 อีก 2 สมัย
แน่นอนว่า MC20 Leggenda ได้รับการตกแต่งพิเศษภายใต้โปรแกรม Fuoriserie เช่นกัน ประกอบด้วย ล้ออัลลอยลายตรีศูล พ่นสีดำ Nero Lucido พร้อมฝาครอบดุมล้อสีดำ Nero Opaco ตัดกับเขียว Trident Digital Mint พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์ตรีศูลสีเหลืองบริเวณกระจังหน้า, ประตู และเสาซี ขณะที่คาลิเปอร์เบรกพ่นสีดำ
ห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น ผ่านการตกแต่งพิเศษภายใต้โปรแกรม Fuoriserie ให้ดุดันสไตล์รถแข่ง ติดตั้งบักเก็ตซีทน้ำหนักเบา ตรงกลางเป็นสีน้ำเงิน Nero/Blu บนพื้นสีเงิน ในรุ่น Icona และสีดำ Nero บนพื้นสีเงินในรุ่น Leggenda พร้อมปักสัญลักษณ์ตรีศูลบนพนักพิงศีรษะและคำว่า Icona หรือ Leggenda
ขณะที่ฝาครอบเครื่องยนต์เน็ททูโน มีการติดตั้งเพลทโลหะในแต่ละรุ่น ระบุคำว่า ‘ICONA. UNA DI 20’ หรือ ‘LEGGENDA. UNA DI 20’
ยนตรกรรมทั้งสองคันติดตั้งระบบเสียงสุดพิเศษจาก Sonus Faber ตกแต่งห้องโดยสารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (E-LSD) ติดตั้งระบบยกช่วงล่างด้านหน้าอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาและขณะถอยหลัง (blind stop และ rear cross path system) รวมไปถึงพรมปูพื้นทั้งด้านหน้าและหลัง
ทั้ง MC20 Icona และ MC20 Leggenda ได้ร่วมฉลอง 20 ปี ของยุคทองในสนามแข่งของค่ายตรีศูล ที่มี MC12 GT1 เป็นผู้บุกเบิกระหว่างปี 2003 – 2010 ที่คว้าชัยชนะถึง 27 ครั้งในการแข่งขันรายการ FIA GT Championship
รวมทั้งได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ 24 Hours of Spa ถึง 3 ครั้ง พร้อมคว้าชัยชนะ 6 ครั้ง ในการแข่งขันแบบทีมที่ชื่อว่า Vitaphone Racing และชัยชนะในประเภทนักแข่งอีก 5 ครั้ง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจากการแข่งขันประเภทผู้ผลิตอีก 2 รางวัล
ช่วงปี 2003 MC12 Stradale ได้จุดประกายในการแข่งขันให้กับ มาเซราติ อีกครั้ง ด้วยยนตรกรรมที่ออกแบบโดย Giorgetto Giugiaro ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V12 ซึ่งพัฒนาจากเครื่องยนต์ของ เฟอร์รารี่ (MC มาจากคำว่า Maserati Corse และเลข 12 มาจากเครื่องยนต์ V12) นับเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ ด้วยตัวเลขสูงถึง 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผลิตจำกัดเพียง 50 คัน