More

    BYD SEALION 8 ขายพวงมาลัยขวาที่ออสซี่ต้นปีหน้า ไทยมีลุ้น!!

    ความเคลื่อนไหวของ BYD SEALION 8 ชื่อใหม่ขายต่างประเทศของ BYD TANG L เจเนอเรชันใหม่พร้อมที่จะโกอินเตอร์ไปขายต่างประเทศ

    BYD

    ล่าสุดสื่อออสเตรเลียรายงานว่าทางบีวายดี ออสเตรเลียพร้อมเปิดตัว BYD SEALION8 ขายเวอร์ชันพวงมาลัยขวาคาดที่แรกของโลก 

    ภายนอกหรูด้วยธีมการออกแบบสไตล์ Loong Face

    • ไฟวิ่งกลางวัน DRL แบบ LED 2 เส้น อยู่เหนือชุดกระจังหน้าโครเมียมคลาสสิกแบบ 3 มิติที่เรียกว่า Dragon Mustache พร้อมตรา BYD ปะอยู่กระจังหน้า
    • ชุดไฟหน้า LED  2 ดวง แยกส่วน พร้อมกรอบทรงเลข 7 สองฝั่งทรงหรูในชุดกันชนหน้าดีไซน์ล้ำ
    • ช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำ
    • ด้านข้างเท่ด้วยคิ้วสีเงินโครเมียมแนวยาวพร้อมคำว่า BYD Design บริเวณบังโคลนหน้าและประตูคู่หน้า
    • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED
    • กระจกโอเปร่าสไตล์ยุโรปพร้อมคิ้วกรอบกระจกโครเมียม
    • ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถ
    • ราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์
    • หลังคาซันรูฟ
    • ด้านท้ายหรูด้วยไฟท้าย LED แนวยาวแบบ Phoenix Wings ซึ่งมีรูปร่างเหมือนปีกนกฟีนิกซ์
    • พร้อมตรา BYD อยู่ใต้ไฟท้ายเรืองแสง
    • กันชนหลังเสริมลิ้นกันชนหลัง
    • ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วพร้อมยาง 255/50R20 และ 21 นิ้วพร้อมยาง 265/45R21

    ตัวรถออกแบบโดย Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BYD มิติตัวรถใหญ่กว่ารุ่น TANG จากพื่นฐาน Super e-Platform  ตั้งแต่

    • ความยาว 5,040 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,760 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,570-2,882 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตรในรุ่น PHEV

    BYD

    ภายในตามสไตล์ BYD

    • เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต มีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ
    • เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ 2+3+2
    • เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมระบบความจำสำหรับเบาะคนขับ มีระบายอากาศ เป่าเบาะเย็น อุ่นเบาะและนวดเบาะได้
    • เบาะหลังตอนที่ 2 พับได้แบบ 60/40 พร้อมระบายอากาศ อุ่นเบาะและนวดเบาะได้ ปรับเลื่อนได้ด้วยระบบไฟฟ้า
    • ตอนที่ 3 พับได้แบบ 50/50 แบบเรียบ โดยมีพื้นที่ด้านท้าย 675 ลิตร และเมื่อพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ 960 ลิตร และพับทั้งตอน 2 และ 3 มีพื้นที่มากถึง 1,960 ลิตร
    • กระจกประตู 4 บานแบบ 2 ชั้นอย่างหนาเพื่อเพิ่มความรู้สึกเงียบสงบ
    • มีตู้เย็นขนาดเล็ก
    • เครื่องปรับอากาศแยกอิสระอุณหภูมิซ้าย-ขวา และด้านหลังถึง 3 โซน

    BYD

    • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด
    • มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล LCD ให้เลือกทั้งแบบ 10.25 นิ้ว ถัดไปอีกเล็กน้อยคือ AR-HUD Head-up Display 26 นิ้ว
    • ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยระบบไฟฟ้า
    • เชื่อมต่อ Apple Car Play, Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink
    • ลำโพง 8 จุด และลำโพงคุณภาพ DiSound ให้เลือก
    • ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W
    • หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส
    • ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด
    • พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด
    • ระบบการเข้ารถและสตาร์ทแบบ Keyless ทำงานร่วมกับกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC

    BYD

    ขายรุ่น Plug In Hybrid 

    ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD จากพื้นฐานเครื่องเบนซินเทอร์โบ BYD472ZQB ขนาด 1.5 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว DM-i มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD ที่ด้านหน้า 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 8.6 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 215 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 207 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้ความจุแบต 19 kWh

    และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ DM-p มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD ที่ด้านหน้า 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร และด้านหลังให้กำลัง 192 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ให้พลังรวม 464 แรงม้า แรงบิดรวม 675 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.9 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 200 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 193 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้ความจุแบต 35.6 kWh

    ทั้ง 2 แบบ สามารถชาร์จกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC พร้อมโหมดการขับขี่ทางเรียบทั้ง EV/HEV/SPORT/ECO/NORMAL/SNOW และ Mud/Sand/All Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้

    มีระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบ Five-Link และติดตั้งระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ Yunnan– C

    BYD

    ติดตั้งระบบ God’s Eye B สีแดงด้านหลัง (Dipilot 300) ประกอบด้วยฟังก์ชัน : ระบบนำทางในเมืองแบบไม่ต้องใช้แผนที่และที่จอดรถ e³ Laser LiDAR 1 จุด, ชิปขับเคลื่อนอัจฉริยะ: Orin-X ตัวเดียว, พลังประมวลผลของชิป: 254 TOPS, จำนวนกล้อง 12 จุด,เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 จุด และ เรดาร์อัลตราโซนิก 12 จุด เบื่องต้น BYD SEALION 8 รุ่น DM PHEV เตรียมขายออสเตรเลียต้นปี 2026 ส่วนเมืองไทยลุ้นขายปีหน้า

    ที่มา CarSales

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts