More

    GWM WEY G9 ชื่อใหม่เอ็มพีวีปลั๊กอินขายมาเลเซียเร็วๆนี้ ไทยมาแน่!!

    ในขณะที่เมืองไทยเตรียมที่จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครือ GWM อย่าง GWM WEY ประเดิมด้วยเอ็มพีวีหรูอย่าง GWM WEY 80 

    GWM

    ล่าสุดมาเลเซียโชว์ดักคอปล่อยภาพทีเซอร์ออกมาสำหรับ GWM WEY 80 พร้อมชื่อใหม่ในการทำตลาดนั่นคือ GWM WEY G9 

    หน้าตาโดยรวมเหมือนสเปกจีน

    ด้วย กระจังหน้าโครเมียมใหม่แนวตั้งทั้งหมด 25 ซี่ จากเดิม 14 ซี่ ปะตราโลโก้เด่นพร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ชุดกันชนหน้าทรงหรูเสริมคิ้วแนวนอนใต้กันชนหน้า

    พร้อมชุดตกแต่งสีเงินที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูนที่เปิดประตูดึงก้าน ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่ง ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R18 ตัวรถมีดังนี้

    • ความยาว 5,050-5,410 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,890-1,900 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,085-3,275 มิลลิเมตร
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 155 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,764-2,865 กิโลกรัม

    GWMภายในใหม่อาจคล้ายสเปกจีน

    ด้วย ด้วยชุดแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดมาพร้อมจอถึง 3 จอเริ่มที่จอมาตรวัดความเร็ว LCD สี จอสัมผัสตรงกลาง 2 จอคู่ ขนาด 15.6 นิ้ว 2.5K พร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Coffee OS 3.2 พร้อมชิปเกรดยานยนต์ 8295 และรองรับ Coffee GPT

    ติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า SR-HUD กระจกมองหลังอัจฉริยะสามารถเปลี่ยนมุมมองจากกระจกมองหลังปกติเป็นกระจกอัจฉริยะด้วยกล้องที่ติดตั้งบริเวณประตูหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน จอบนเพดานความละเอียดสูงพิเศษ 3K ขนาด 17.3 นิ้ว พร้อมลำโพง 23 จุด มาจาก Harman Kardon รวมพนักพิงศีรษะ

    เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ Zero Gravity หุ้มหนัง NAPPA ทางด้านเบาะนั่งแถวที่ 2 ติดตั้งเบาะนั่ง VIP แบบ First Class เครื่องบิน สามารถปรับนอนราบได้ด้วยปุ่มเดียว และรองรับหน่วยความจำเบาะนั่งและการชาร์จแบบไร้สาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโต๊ะเล็ก

    มาพร้อมกับฟังก์ชันอุ่นเบาะ เบาะเย็น และนวดเป็นมาตรฐานทั้ง 3 แถว และพื้นที่สัมภาระสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ 7, 12 และ 13 ใบตามลำดับ ตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมดได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15 องศาเซลเซียส) และโหมดทำความร้อน (35-50 องศาเซลเซียส) มาพร้อมปริมาณความจุที่ให้มาถึง 12.5 ลิตร มอบความสะดวกสบายแบบเหนือระดับยิ่งกว่าใคร

    มอบความเงียบในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่ 65 เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ (HALOSonic EOC) ให้ตลอดทั้งเส้นทางไร้ซึ่งสิ่งรบกวนสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    GWM

    มาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ Air Quality System (AQS) และม่านบังแดดสำหรับแถวที่ 2 และ 3 อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์ที่มอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีเหนือระดับได้อย่างลงตัว

    มีระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัว ได้รับการพัฒนาร่วมกับนักปรุงน้ำหอมชั้นนำ ระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัวนี้มอบประสบการณ์กลิ่นที่โดดเด่นด้วยสามธีมได้แก่ Fresh Breeze, Urban Essence, และ Afternoon Garden เพื่อสร้างกลิ่นที่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพเพื่อผู้ใช้งานและผู้โดยสารระดับวีไอพีตลอดทั้งเส้นทาง

    หลังคาแบบ Sky Dome ตกแต่งด้วยดวงดาวถึง 830 ดวง รวมถึงดาวตกแบบนิ่งและแบบเคลื่อนไหว สร้างโดมท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ดูมีชีวิตชีวา แสงนุ่มนวลสลับกับเอฟเฟกต์ฮาโล เพื่อมอบบรรยากาศเฉพาะตัวที่ช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบเสมือนอยู่ในห้วงอวกาศ

    GWM

    ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด Hi4 Performance

    เป็นเบนซินเทอร์โบแปรผัน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15BE ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet synchronous motor ให้กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตรในส่วนล้อหน้าและล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 232 นิวตันเมตร

    พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 44.28kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 458 แรงม้า แรงบิดรวม 644 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 170 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที

    ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 26 นาที สามารถวิ่งได้อีก 172 กิโลเมตร และวิ่งได้อีก 201 กิโลเมตร และชาร์จกระแสสลับ AC 15-100% กำลังไฟ 6.6 kW ภายใน 6.5 ชั่วโมง

    GWM

    ประหยัด 111 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน WLTC จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Four-speed hybrid 4 สปีด มาพร้อมระบบ Braking Energy Regeneration และ One Pedal ขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะที่สามารถปรับการทำงานระหว่างขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อได้อย่างชาญฉลาด ลดการใช้พลังงานและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในทุกการขับขี่

    เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง “Coffee Pilot Ultra” ติดตั้งเรดาร์เลเซอร์ 128 จุดเป็นออปชันมาตรฐานกับไฮไลต์สำคัญอย่างการทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแผนที่ความละเอียดสูง ครอบคลุมทุกสถานการณ์การใช้งาน และยังรองรับการนำทางแบบจุดต่อจุดได้อย่างราบรื่น

    อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ “NOA (Navigate on Autopilot)” ที่ผ่านการทดสอบบนถนนจริงมากว่า 9 ล้านกิโลเมตร ร่วมกับการจำลองเสมือนจริงกว่า 50 ล้านกิโลเมตร ครอบคลุมทุกสภาพแวดล้อมการใช้งาน ตั้งแต่เมืองใหญ่ไปจนถึงพื้นที่ในชนบท

    GWM

    GWM WEY G9 เตรียมเปิดตัวที่มาเลเซียเร็วๆนี้ ทางด้านเมืองไทยมาแน่นอนแต่จะใช้ชื่ออะไรระหว่างรุ่น WEY G9 หรือ WEY 80 ต้องติดตาม

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts