วี่แววที่ BYD ATTO 2 เวอร์ชันอีวีที่จะขายในไทยนั่นค่อนข้างริบหรี่แต่ต่างประเทศได้ขายไปแล้วและล่าสุดที่ยุโรปเผยเวอร์ชันปลั๊กอินๆไฮบริด
BYD ATTO 2 DM-i หน้าตาคล้ายกับรุ่นอีวีล้วนตั้งแต่จากโลโก้ BYD แทนโลโก้ YUAN ภาษาจีน แบบทรงทึบสีเข้ม
ประกบกับไฟหน้า LED แนวยาวรับกับกันชนหน้าขนาดใหญ่เสริมคิ้วชายล่างอออกแบบให้ใหญ่ขึ้นแบบตัวยูคว่ำสีเงิน ส่วนเวอร์ชันยุโรปกันชนหน้าดีไซน์ต่างกันที่ช่องระบายอากาศแบบสามเหลี่ยมพร้อมคิ้วสีเดียวกับตัวรถ
ด้านข้างมีเส้นสายลู่ลมทั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ พร้อมกระจกมองข้างที่เปิดประตูดีไซน์ดั้งเดิม คิ้วขอบล้อกับคิ้วชายล่างประตูดีไซน์ตัวยูคว่ำสองจุด พร้อมขลิบสีเดียวกับตัวรถ 2 จุด ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาว เสมือนตัวเลข 8 สื่อถึงโชคลาภไม่มีที่สิ้นสุด ปักโลโก้ BYD ภาษาอังกฤษ รับกับกันชนหลังออกแบบคิ้วสีเงินแบบยูคว่ำพร้อมช่องใส่ป้ายทะเบียนท้าย คิ้วชายล่างสีเงินแนวยาวดีไซน์ปุ่มนูนๆสี่จุด
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/65 R16 และเพิ่มมาคือช่องเติมถังน้ำมัน และตราสัญลักษณ์ DM-i ตัวรถยกสูงใหญ่สมฐานะมีขนาดเล็กกว่า BYD ATTO3 ทุกมิติสร้างจากพื้นฐาน BYD’s e-platform 3.0 ตั้งแต่
- ความยาว 4,310 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,830 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,675 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 170 มิลลิเมตร
ออปชันประจำรถทั้ง มาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 12.8 นิ้ว ปรับได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสี่ก้านท้ายตัด หัวเกียร์อัตโนมัติแบบคริสตัล
เอาใจคู่รักด้วยหลังคารถแบบพาโนรามิก พร้อมลำโพง 6-8 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติอุณหภูมิ 1 โซนพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจ NFC ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50 W ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C และ Type A รวมกัน 4 จุด
ภายในโอ่โถงสบายแบบ 5 ที่นั่ง เบาะหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 6 ทิศทางพร้อมระบบอุ่นเบาะ เบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่มากถึง 1,340 ลิตรกรณีพับเบาะและ 400 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ
ขุมพลังปลัํกอินไฮบริด DM-i ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าและชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยให้ระยะทางวิ่งไกลสุดทั้งระบบ 1,020 กิโลเมตร และวิ่งในโหมดอีวีล้วน 90 กิโลเมตร
ขุมพลังไฟฟ้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น TZ200XSW แรงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9 วินาที วิ่งไกลสุด 367 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 312 กิโลเมตร (WLTP) จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP Blade ขนาด 51.13 kWh ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking)
ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ BOS brake priority system และควบคุมความเร็ว Cruise Control เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงทำงานร่วมกับกล้องและเซนเซอร์รอบคันอย่างแม่นยำได้แก่
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door opening safety reminder (DOW)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping System (LKS)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- แจ้งเตือนก่อนกาชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Collision Braking (RCTB)
- ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Departure Prevention (LDP)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping Assist (ELKA)
- ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ Lane Change Warning (LCW)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
เนื่องด้วยสหภาพยุโรปกำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน ผู้ผลิตรถยนต์จีนจึงเปลี่ยนกลยุทธ์การขายในยุโรปไปสู่รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินและมี BYD ATTO 2 DM-i เป็นหนึ่งในนั้น
เตรียมขายยุโรปต้นปีหน้าช่วงไตรมาสที่ 1 มาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงิน Midnight Blue ขาย 2 รุ่นย่อย โดยจะเปิดสเปกที่ขายในเดือนพฤศจิกายน ทางด้านออสเตรเลียจะขายเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในเดือนพฤศจิกายน ด้วยภาพลักษณ์สดใส ด้วยดีไซน์ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างคล่องตัว ทั้งยังอเนกประสงค์สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน
ที่มา CarExpert
