หลังจากที่ออสเตรเลียเตรียมเปิดตัว BYD TANG L ในชื่อใหม่ BYD SEALION 8 ทางด้านตลาดอื่นๆนอกประเทศจีนก็ได้ชื่อใหม่เช่นกันกับ BYD ATTO 8
BYD ATTO 8 หรือ BYD SEALION 8 (TANG L) เอสยูวีรุ่นใหญ่เจนใหม่ออกแบบมาเพื่ออยู่ตำแหน่งสูงกว่า BYD TANG ที่เปิดตัวตอนปี 2015 และขายควบคู่กัน
ภายนอกหรูด้วยธีมการออกแบบสไตล์ Loong Face
ตั้งแต่ไฟวิ่งกลางวัน DRL แบบ LED 2 เส้น อยู่เหนือชุดกระจังหน้าโครเมียมคลาสสิกแบบ 3 มิติที่เรียกว่า Dragon Mustache พร้อมตรา BYD แทนตราตระกูล ถัง ภาษาจีน ปะอยู่กระจังหน้า พร้อมชุดไฟหน้า LED 2 ดวง แยกส่วน พร้อมกรอบทรงเลข 7 สองฝั่งทรงหรูในชุดกันชนหน้าดีไซน์ล้ำพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำ
ด้านข้างเท่ด้วยคิ้วสีเงินโครเมียมแนวยาวพร้อมคำว่า BYD Design บริเวณบังโคลนหน้าและประตูคู่หน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED พร้อมกระจกโอเปร่าสไตล์ยุโรป ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถ ราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์ หลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟขนาด 2.39 ตารางเมตร คิ้วกรอบกระจกโครเมียม
ด้านท้ายหรูด้วยไฟท้าย LED แนวยาวแบบ Phoenix Wings ซึ่งมีรูปร่างเหมือนปีกนกฟีนิกซ์ พร้อมตรา BYD อยู่ใต้ไฟท้ายเรืองแสง รับกับกันชนหลังเสริมลิ้นกันชนหลังและล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วพร้อมยาง 255/50R20 และ 21 นิ้วพร้อมยาง 265/45R21 ตัวรถออกแบบโดย Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BYD
จากพื้นฐาน Super e-Platform มิติตัวรถ
- ความยาว 5,040 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,760 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 165 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,570-2,882 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตรในรุ่น PHEV
- ความจุสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า 136 ลิตรในรุ่น EV
ภายในตามสไตล์ BYD
ตั้งแต่ เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต มีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ 2+3+2 เริ่มที่ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมระบบความจำสำหรับเบาะคนขับ มีระบายอากาศ เป่าเบาะเย็น อุ่นเบาะและนวดเบาะได้
เบาะหลังตอนที่ 2 พับได้แบบ 60/40 พร้อมระบายอากาศ อุ่นเบาะและนวดเบาะได้ ปรับเลื่อนได้ด้วยระบบไฟฟ้า และตอนที่ 3 พับได้แบบ 50/50 แบบเรียบ โดยมีพื้นที่ด้านท้าย 270 ลิตร และเมื่อพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ 960 ลิตร และพับทั้งตอน 2 และ 3 มีพื้นที่มากถึง 1,960 ลิตร
กระจกประตู 4 บานแบบ 2 ชั้นอย่างหนาเพื่อเพิ่มความรู้สึกเงียบสงบ และยังมีตู้เย็นขนาดเล็ก พร้อมเครื่องปรับอากาศแยกอิสระอุณหภูมิซ้าย-ขวา และด้านหลังถึง 3 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล LCD ให้เลือกทั้งแบบ 10.25 นิ้ว ถัดไปอีกเล็กน้อยคือ AR-HUD Head-up Display 26 นิ้วแสดงข้อมูลที่จำเป็นโดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้าส่วนจอแสดงผล ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยระบบไฟฟ้า
เชื่อมต่อ Apple Car Play, Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink พร้อมลำโพง 21 จุด กำลังขับ 1,500 W ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W หัวเกียร์ติดตั้งที่คอพวงมาลัย ปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด
มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด ระบบการเข้ารถและสตาร์ทแบบ Keyless ทำงานร่วมกับกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC และไฟสร้างบรรยากาศภายใน ambient light 128 สี และเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
ขุมพลังหลากหลาย
Plug In Hybrid หรือ DM-p เจเนอเรชันที่ 5 ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ให้ความจุแบต 35.6 kWh จากพื้นฐานเครื่องเบนซินเทอร์โบ BYD472ZQB ขนาด 1.5 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร
ขับเคลื่อน 4 ล้อ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ารุ่น TZ210XYD ที่ด้านหน้า 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิด 675 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.9 วินาที
วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 152 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และวิ่งไกลทั้งระบบ 1,030 กิโลเมตร (NEDC) สามารถชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 71 kW ภายใน 20 นาที 30-80% และกระแสสลับ AC พร้อมโหมดการขับขี่ทางเรียบทั้ง EV/HEV/SPORT/ECO/NORMAL/SNOW และ Mud/Sand/All Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
เวอร์ชันอีวีล้วนด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วน Super E เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่เคลมว่าให้รอบสูงสุดในโลก จากสถาปัตยกรรม 1,000 V พัฒนาโดย BYD พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 100.5 kWh มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว TZ210XYR ขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 30,511 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 6.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงวิ่งไกลสุด 670 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 646 กิโลเมตร (NEDC) รองรับการชาร์จทั้ง DC กระแสตรง สูงสุด 1,000 kW ชาร์จเร็วสุด 5 นาที วิ่งได้ 370 กิโลเมตร ชาร์จทุกๆ 1 วินาที ได้ 1.6 กิโลเมตร 10-70% ภายใน 6 นาที และ 0-100% ภายใน 29.7 นาที และชาร์จ AC
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมอเตอร์หน้า YS230XYD ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 410 นิวตันเมตรที่ 21,500 รอบต่อนาที และมอเตอร์หลัง TZ210XYW ให้กำลัง 789 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 30,511 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวมสูงถึง 1,102 แรงม้า แรงบิด 860 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 3.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 579 กิโลเมตร (NEDC) รองรับการชาร์จทั้ง DC กระแสตรง สูงสุด 1,000 kW ชาร์จเร็วสุด 5 นาที วิ่งได้ 331 กิโลเมตร ชาร์จทุกๆ 1 วินาที ได้ 1.6 กิโลเมตร 10-70% ภายใน 6 นาที และ 0-100% ภายใน 29.7 นาที และชาร์จ AC พร้อมโหมดการขับขี่ SPORT/ECO/NORMAL/SNOW และ Mud/Sand/All Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
ทั้ง 2 มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ มีระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบ Five-Link และติดตั้งระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ Yunnan- C
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go ACC (Adaptive Cruise Control-Stop and Go) (ACC-S&G)
- แจ้งเตือนจํากัดความเร็วอัจฉริยะ ISLI (Intelligent Speed Limit Information)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ISLC (Intelligent Speed Limit Control)
- ล็อกความเร็วอัจฉริยะพร้อมระบบพร้อมรักษารถให้อยู่ในเลนเสมอ Intelligent cruise control (ICC) (Lane Centering)
- ไฟหน้าอัจฉริยะ AFL (Adaptive Front Light)
- ช่วยเตือนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning)
- ช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า FCTA (Front Cross Traffic Alert)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า FCTB (Front Cross Traffic Brake)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน ELKA (Emergency Lane Keeping Assist)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา BSD (Blind spot monitoring)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- เตือนออกนอกเลน LDA (Lane Departure Assist)
- จดจำป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition)
ความปลอดภัยพื้นฐาน
- ป้องกันล้อล็อก ABS (Anti Lock Braking System)
- กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
- เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Distribution)
- ควบคุมรักษาเสถียรภาพการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control)
- ป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่
- ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHS (Hill Start Assist System)
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
- ป้องกันรถพลิกคว่ำ ROM (Roll Over Mitigation)
- ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System)
- สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน 11 จุด
- กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง
เบื่องต้นเตรียมขายต่างประเทศทั้งใน อุซเบกิสถาน และอเมริกาใต้ในชื่อ BYD ATTO 8 และออสเตรเลียช่วงต้นปี 2026 ในชื่อ BYD SEALION 8
ที่มา CarNewsChina





















