ทำตลาดในไทยมาได้สักพักยอดขายพอไปได้ กับ Nissan Leaf เก๋งไฟฟ้าที่แรงถึงใจ 150 แรงม้า วิ่งไกลสุด 320 กม. มาแล้ว
งานนี้ต้องลุ้นกันว่า Nissan LEAF เวอร์ชั่นแบตใหญ่ หรือ Nissan LEAF e+ จะเข้าไทยหรือไม่ เริ่มที่หน้าตาไม่ต้องพูดถึงยังคงเดิมทุกประการแต่คาดว่าจะมีการเพิ่มสีใหม่เข้ามาและอาจปรับออพชั่นบางอย่างเพื่อให้ทำราคาได้เมหาะสมแต่ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวตนเดิมทั้ง กระจังหน้าตัววีไฟหน้า Projector แบบ LED คู่ พร้อมไฟ DRL แบบ LED ทรงบูมเมอแรง ไฟท้ายสีแดงขาว และล้ออัลลอยลาย 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17
ภายในพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว Nissan Connect รองรับทั้ง Apple CarPlay ,Android Auto ลำโพงคุณภาพ BOSE 7 มาตรวัดพร้อมจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงท้ายตัด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ด้านท้ายมีพื้นที่สัมภาระมากถึง 435 ลิตร
ขุมพลังยังพัฒนาความจุแบตเตอรี่ให้ใหญ่กว่าเดิมขนาด 62 kWh จากเดิม 40 kWh แถมเพิ่มกำลังของมอเตอร์ให้มากขึ้น ทำให้มีแรงม้ามากขึ้น 217 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร จากเดิม 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสูงสุด 385 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง จากเดิม 320 กิโลเมตร และเพิ่มกำลังในการชาร์จได้มากถึง 100 กิโลวัตต์
นอกจากอัพเกรดความจุแบต แรงม้าเพิ่ม แรงบิดเพิ่มแล้วด้านาการชาร์จ ถ้าชาร์จเร็วจะใช้เวลาน้อยกว่าเดิม พร้อม ProPILOT หรือช่วยขับอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานของตัวรถ เบรก และอัตราเร่ง ไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงระบบควบคุมพวงมาลัย การควบคุมการเร่ง เบรก การเปลี่ยนเกียร์ และเบรกมือเพื่อให้ตัวรถเข้าสู่ช่องจอดได้โดยอัตโนมัติ หรือ ProPILOT Park เข้ามาเสริม กับเอกลักษณ์ที่ยังไม่ลืมกับ e-Pedal ที่รวมแป้นคันเร่ง และเบรกไว้ในแป้นเดียวเท่านั้น โดยเมื่อจะเบรกรถก็แค่เบรกให้อัตโนมัติ
จับตาดูกันว่าปีเสือปีนี้ Nissan ไทยจะสู้อีกครั้งกับการนำเข้า Nissan LEAF e+ เข้ามาขายในไทยแล้วถ้าขายจริงค่าตัวจะตั้งไว้ที่เท่าไหร่นั้นต้องติดตาม