ในช่วงหน้าฝนตกไม่เว้นวันขนาดนี้ อย่างที่รู้กันดี ถนนบ้านเรามักจะมีหลุมบ่อ ถนนขรุขระ บ้างขับไปไม่ทันมองเจอแจ็กพอต หลุมใหญ่ แบบไม่รู้ตัว ไม่ทันระมัดระวัง ยิ่งเวลามีน้ำขังตามหลุมบนถนน เราไม่มีทางรู้เลยว่าหลุมนั้นลึกแค่ไหน ยิ่งถ้าหากขับรถมาเร็ว ๆ ยิ่งอาจสร้างความเสียหายให้รถของคุณมากพอสมควรเลยทีเดียว วันนี้มาเพิ่มความรู้กันค่ะ ว่าถ้าหากเราขับรถตกหลุมบ่อย ๆ นั้น จะเกิดความเสียหายอะไรบ้าง
รถตกหลุม สร้างความเสียหายอะไรบ้าง?
ลองนึกภาพตามดูนะคะ ถ้าหากเราขับรถไปแล้วเกิดรถตกหลุม สิ่งที่หลายคนนึกถึง คือความเสียหายของช่วงล่างรถยนต์ หรือล้อก่อนอันดับแรก การที่รถยนต์ตกหลุมบ่อย ๆ หรือขับขี่บนพื้นถนนที่ขรุขระ ทำให้ช่วงล่างรถล้วนได้รับแรงกระแทกโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น โช๊คอัพ ลูกหมาก ปีกนก บูชยาง หรือเพลาขับ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ดังกล่าวจะเกิดการเสื่อมสภาพ หรือสึกหรอเร็วกว่าปกติ ทั้งนี้ หากไม่ตรวจเช็กสภาพ หรือรีบทำการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ความเสียหายจะส่งผลให้เกิดอันตรายจากสมรรถภาพรถได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีอุปกรณ์ที่ยึดกับตัวถังอีกมากมายที่อาจได้รับความเสียหายร่วมด้วย คือ
1. ล้อรถ
เมื่อรถตกหลุม อาจมีความเป็นไปได้ที่จะถึงขั้นแตกร้าวจากแรงกระแทก ถ้าหากล้อแม็กไม่แตก ล้อของคุณก็อาจจะคดได้ ต้องตรวจเช็กจุดนี้ให้ดีหลังจากที่ได้ตกหลุมมา ถึงแม้ในกรณีที่ตกหลุมไม่ลึก และไม่แรงมากนัก อย่างน้อยก็สามารถเข้าอู่ไปดัดล้อให้กลับมาตรงเหมือนเดิมได้ เพื่อให้สมรรถนะในการขับขี่ดำเนินต่อไปได้ โดยไม่มีอาการสั่นขณะที่ขับด้วยความเร็วสูง
2. ยางรถยนต์
อีกจุดที่ต้องเช็กเลยคือยางรถยนต์ เพราะถ้าหากรถตกหลุมอย่างแรง มีความเสี่ยงที่ยางรถยนต์จะรั่วซึมจนทำให้แบนได้ ฉะนั้น คุณควรพกยางอะไหล่ไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินแบบนี้ด้วย ยิ่งเวลาตกหลุมบ่อยๆ โครงยางอาจจะเสียหาย ทำให้ลมในท้องยางจะซึมผ่านชั้นเนื้อยางแทรกเข้าไปอยู่ในชั้นโครงยางกับเนื้อยาง ทำให้ยางบวมปูดออกมา และเสี่ยงยางระเบิด หากสังเกตเห็นได้ ให้รีบเปลี่ยนยางจะดีที่สุด
3. ลูกปืนล้อ
เมื่อรถตกหลุมด้วยแรงกระแทกอย่างรุนแรง คุณอาจได้ยินเสียงหอนดังขึ้นจากล้อข้างใดข้างหนึ่ง คือเกิดจากอาการของลูกปืนล้อแตก มีผลมาจากแรงกระแทกอย่างแรงกับล้อรถ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดความร้อนจนแกนเพลาไหม้ ถ้าสังเกตุว่าพบอาการนี้ คุณควรนำรถยนต์เข้าอู่ซ่อมทันที
4. ตัวถังรถยนต์
เมื่อตกหลุม ตัวถังบางส่วนของรถคุณอาจจะกระแทกกับพื้นถนนได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้า หลัง หรือด้านล่าง โดยเฉพาะสเกิร์ต หากรถตกหลุมขนาดใหญ่ ก็อาจจะทำให้ตัวถังบุบ ร้าวหรือแตกหักได้เช่นกัน ถ้าไม่อยากให้วัตถุใดของรถคุณหลุดหายไปโดยไม่รู้ตัว ให้รีบเช็คหลังจากตกหลุมมาทันที
5. โช้คอัพ
โช้ครถยนต์ของคุณอาจจะไม่ถึงกับเสียทันที แต่อาจมีอาการยางรองหัวโช้คกับตัวถังแตก ก้านโช้คคดงอ เบี้ยว เพราะฉะนั้นให้ตรวจเช็กให้ละเอียด
6. ศูนย์ถ่วงเอียง
หากการตกหลุมบ่อย ๆ อาการที่จะตามมาอีกก็คือ ศูนย์ถ่วงที่พวงมาลัย ด้วยแรงกระแทกบ่อย ๆ อาจทำให้ศูนย์ถ่วงไม่ตรง เอียงซ้ายบ้าง ขวาบ้าง อันนี้ผู้ขับขี่จะต้องเช็กด้วยตนเอง ว่าองศาพวงมาลัยรถนั้นเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ให้รีบไปตั้งศูนย์ถ่วงโดยเร็วที่สุดจะยิ่งดี
7. ช่วงล่างอื่นๆ
คุณควรเช็กช่วงล่างส่วนอื่นๆ เผื่อไว้ด้วย ทั้งลูกหมาก ปีกนก บูชยาง เพลาขับ เรียกได้ว่า ตกหลุมทีแทบจะเสียหายทั้งคัน หากมีโอกาสหลีกเลี่ยง หรือขับช้า ๆ ในพื้นที่น้ำท่วมขัง หรือถนนขรุขระ จะช่วยรักษารถของคุณให้ไม่เกิดกรณีข้างต้น
ขับรถเลี่ยงหลุมอย่างไรให้ปลอดภัย
เพื่อป้องกันช่วงล่างไม่ให้เลยความชำรุดก่อนเวลาอันสมควร และคุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมจุกจิกมากมาย คุณก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถยนต์บนเส้นทางที่เป็นหลุมบ่อ แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องใช้เส้นทางนั้น ๆ ความระมัดระวัง ควรชะลอช้า ๆ โดยเฉพาะก่อนจะลงหลุม ให้ค่อย ๆ หย่อนรถของคุณลงไป โดยเท้าเตะเบรกไว้เสมอ ไม่ควรปล่อยให้รถไหลลงเองเป็นอันขาด เพียงเท่านี้ก็สามารถลดแรงกระแทกที่อาจส่งผลเสียต่อตัวรถของคุณได้แล้ว
บทความอื่น ๆ
